สสจ.พร้อมทีมหมออนามัยเมืองชาละวันลุยฉีดวัคซีนให้กับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงและผู้ดูแลยืนยันวัคซีนมีเพียงพอ
นายแพทย์อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ นพ.สสจ.พิจิตร ลงพื้นที่นำทีมหมออนามัยเดินหน้าลุยฉีดวัคซีน Astrazenaca เข็มสอง ต้านโควิดให้กับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงและผู้ดูแลในเขตพื้นที่ตำบลหัวดง อ.เมืองพิจิตร โดยมี นายอธิวัฒน์ วงศ์ตันติเจริญ “หมอบอย” สสอ.เมืองพิจิตร , นายแพทย์โสภณ โฆษิตวานิชย์ รอง ผอ.รพ.พิจิตร , ดร.ธานี โชติกคาม รองนายแพทย์สาธารณสุข พร้อมด้วย นายพีระโรจน์ ภัทรประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวดง , สจ. พีรวิชญ์ ประเสริฐชัยวานิช “สจ.ห้า” ซึ่งเป็นผู้นำท้องถิ่นพาเดินเข้าฉีดวัคซีนให้กับชาวบ้านที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
โดย นายแพทย์อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ นพ.สสจ.พิจิตร กล่าวว่า… เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล รวมถึงนโยบายของ นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผวจ.พิจิตร ที่ต้องการเปิดเมืองพิจิตรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่จะมาเยือน ดังนั้นทีมงานของ สสจ.พิจิตร และหมออนามัยในทุกตำบลจึงได้ร่วมกันรณรงค์เชิญชวนพร้อมทั้งเก็บตกผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรก หรือ ผู้ที่จะต้องฉีดวัคซีนเข็มสองที่เป็นผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงและผู้ดูแลให้มีภูมิคุ้มกัน เป้าหมายต้องได้ไม่น้อยกว่า 70% ซึ่งมั่นใจว่า จ.พิจิตร ทำได้แน่นอน
สำหรับมาตรการแรก ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวของพิจิตร เช่น ที่วัดท่าหลวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญบุคคลที่เกี่ยวข้องและผู้ที่อยู่ในรัศมี 200 เมตร จะได้รับการฉีดวัคซีน 90% เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจเรื่องความปลอดภัย มาตรการที่สอง คือ ประชากรในเขตเทศบาลเมืองพิจิตรต้องได้ฉีดวัคซีน 80% เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีนักท่องเที่ยว เข้า-ออก เป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ เขต อ.เมือง พิจิตร ก็ต้องได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70% ส่วนมาตรการที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ การปรับแก้ไขคำสั่งของศูนย์บริหารจัดการโควิดของ จ.พิจิตร ที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่งต่างๆมากมายหลายข้อห้าม-หลายข้อที่อนุญาต ซึ่งประชาชนอาจจะสับสน ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขยกเลิกของเก่าในบางเรื่องบางตอนให้เป็นปัจจุบันและเข้าถึง เข้าใจ ได้ง่าย โดยล่าสุดมีการผ่อนคลายการทำกิจกรรมหรือการรวมตัวได้ถึง 100 คน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news