น้ำลดม็อบสิบล้อผุด
จังหวะที่การบ้านพันการเมืองที่ “นายกฯลุงตู่” และ ศูนย์อำนาจ3 ป. ต้องเข้าโหมด ทำตัวเป็น “นักการเมือง”มากขึ้น
แบบมีการลงพื้นที่ที่น้ำท่วมหรือไม่ท่วมก็ตาม โดยพุธนี้(20ต.ค.)ทั้ง “สองลุง” “บิ๊กป้อม” “บิ๊กตู่”มีคิว “ไปคนละทาง”ลงพื้นที่ดูการรับมือน้ำท่วมคนละจังหวัด เพื่อพบรับฟังปัญหาความเดือดร้อนประชาชนอย่างที่“พี่รอง”มท.1 เคยยอมรับว่า ที่ผ่านมาทำงานแบบระบบราชการวันหยุดก็หยุด เลยไม่ได้สัมผัสพี่น้องประชาชนได้เท่ากับบรรดานักการเมืองส.ส.ที่เป็นเหตุให้นายกฯลงพื้นที่ถี่ยิบ ไม่ต่างบรรดารัฐมนตรีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และบรรดาพรรคฝ่ายค้านที่พูดกันไปถึงการเสนอชื่อ “นายกรัฐมนตรี”กันแล้ว หลังปี่กลองสัญญานเลือกตั้งดัง
แม้ “นายกฯลุงตู่”จะย้ำแล้วย้ำอีกว่า ไม่มีในหัว ที่คิดจะ “ยุบสภา”แต่ เซียนการเมืองมองไปถึงจุดตัด ใน ต้นเดือน พฤศจิกายน ที่สภาเปิดแล้ว ว่า มีโอกาสจะเกิด “อุบัติเหตุการเมือง”ได้ทุกเมื่อโดยเฉพาะมีกฎหมายสำคัญที่นายกฯต้องรับผิดชอบยุบสภาลาออกถ้าโหวตไม่ผ่าน หาก“แผลความขัดแย้ง”ภายในรัฐบาลโดยเฉพาะ “ศูนย์อำนาจ3ป.”และบรรดา “มือทำงาน”ยังไม่แห้งสนิท อย่างที่มีรายงานข่าวการนัดเคลียร์ที่บ้านป่ารอยต่อฯระหว่าง “บิ๊กตู่”กับ “ผู้กองนัส”อย่างที่ “บิ๊กป้อม”แม้ออกมาปัดในทีเมื่อวาน(18ต.ค.)แต่ก็บอกว่าก็ยังรักกันดีคุยกันได้ไม่ต้องเคลียร์อะไร
เรียกว่าร่องรอยความเคลื่อนไหวที่ว่าทำให้ทุกฝ่ายจับตาในทุกบริบทความเคลื่อนไหวที่จะส่งผลกระทบเป็น ปัจจัยทางการเมือง ไม่แต่เฉพาะการชิงจังหวะเสี่ยงประกาศ“เปิดประเทศ”1พ.ย.แม้ในหลายพื้นที่จะยังมี “คลัสเตอร์ใหญ่”รวมถึงยังฉีดวัคซีนไม่ได้ตามเป้าที่ประกาศไว้ที่มี “หมอ”ออกมาติงว่ายังมีความเสี่ยงที่ยากต่อการควบคุมหากเกิดผิดพลาด รวมถึงมีการพ่วงไปถึงการต้องอยู่เป็นนายกฯต่อเพื่อเป็นเจ้าภาพประชุมสำคัญที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่ต้องเตรียมงานตั้งแต่พ.ย.ปีนี้ ที่ทั้งหมดเหมือนจะมีความเชื่อมโยงในความจำเป็นกับบทบาท”นายกฯลุงตู่”ที่แม้รัฐธรรมนูญ60จะกำหนดให้เป็นนายกฯเป็นติดต่อกันได้ไม่เกิน2สมัย ซึ่งยังถกเถียงกันอยู่กับการตีความนับจากปี2557จะครบในส.ค.ปี2565 หรือนับจากปี62หลังเลือกตั้ง
แต่ที่เหมือนจะเป็นประเด็นการบ้านผสมการเมืองและถูกจับตาคือปัญหา “ม็อบ”ที่ไม่ใช่ “ม็อบการเมืองขัดตั้ง”แบบที่ “สองลุง”เพิ่งโดนลองของตอนลงพื้นที่ หรือ “ม็อบเด็กทะลุเพดาน”หากแต่เป็น “ม็อบ”ที่เดือดร้อนจากเศรษฐกิจ ทั้งผู้ประกอบการ ลูกจ้าง ที่ตกงาน และทั้งบรรดากลุ่มอาชีพต่างๆที่เดือดร้อนจาก “สงครามโควิด”ที่รัฐบาลมีการ “ล็อคดาวน์”ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวกันมากขึ้น รวมถึง “ม็อบสิบล้อ”วันนี้(19ต.ค.)นำโดย สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Truck Power เพื่อเรียกร้องการตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยจัดคาราวานรถบรรทุกประมาณ 1,000 คัน วิ่งไปตามถนนสายหลักทุกภาคตีโอบกรงเทพฯ ไม่นับรวมม็อบลูกจ้างแรงงานที่มาร้องที่ทำเนียบฯ
ที่ประเด็นม็อบ ไม่ว่าจะกลุ่มปัญหาใด จากเดิมที่รัฐบาล “3ป.”ช่วงต้นๆมักมองในมิติ “ความมั่นคง”เสมอเพราะเชื่อว่ามีเบื้องหลังการเมือง มีการใช้กฎหมายห้ามการชุมนุมในการจัดการ มาในจังหวะนี้ผ่านมา7ปี ที่กำลังเข้าสู่ “โหมดการเมือง”เตรียมพร้อมเลือกตั้ง แบบที่มีความเซ็นท์ซิทีฟในการจัดการที่จะส่งผลกระทบกับความนิยม
ทำให้ระยะหลังจะมีการพูดคุยมากกว่าจับกุมแบบที่ทำกับ “ม็อบเด็ก”ที่สัญญานนี้ก็รวมไปถึงท่าทีของฝ่ายกองทัพ ที่เป็นครั้งแรกของผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ ที่ ผบ.ทหารสูงสุด “บิ๊กแกว”นำผบ.เหล่าทัพแถลงหลังประชุม ยืนยัน ว่า ในสถานการณ์ที่การเมืองมีสัญญานสุ่มเสี่ยงเปลี่ยนแปลง ทหารยังนิ่งไม่ยุ่งการเมืองไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ยังไม่มีการเตรยีมพร้อมที่จะทำอะไรนอกจากหน้าที่ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ โดยให้ตำรวจดูแลม็อบสร้างความสงบเรียบร้อยส่วนทหารจะออกมาต่อก็เมื่อกลายเป็นกบฎหรือจราจล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news