วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้กับสยามประเทศด้วยเทคโนโลยีตะวันตกทั้ง การไฟฟ้า การไปรษณีย์ โทรเลข และการใช้โทรศัพท์ การชี้นำความพัฒนาเข้ามายังในประเทศช่วงนั้นทำให้พระองค์ได้รับการถวายพระนามว่า “พระปิยมหาราช”
ร.5 “ถึงลูกชายคนเล็ก”
สมัยพระราชโอรสของพระปิยมหาราชเสด็จศึกษาต่อต่างประเทศ พระองค์ทรงมีรับสั่งแก่บรรดาพระราชโอรสทุกพระองค์ที่ศึกษาอยู่ยุโรปให้ส่งจดหมายมาให้พระองค์ทุกเดือน จึงเป็นเหตุให้พระองค์มีจดหมายเขียนถึงเป็นจำนวนมาก เพียงแค่จดหมายตอบกลับระหว่างพระองค์ถึงพระราชโอรสก็สามารถรวมเล่มเป็นหนังสือขึ้นมาชื่อว่า ‘ถึงลูกชายคนเล็ก’ ได้เลยทีเดียว
หนังสือถึงลูกชายคนเล็ก เป็นหนังสือรวบรวมพระราชหัตถเลขา (จดหมาย) ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 5 กับพระราชโอรส สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถระหว่างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2439 – พ.ศ. 2453 สมัยสิ้นรัชกาลที่ 5 กว่า 300 ฉบับ
เนื้อหาข้างในเล่าถึงการตอบกลับไปมาระหว่างพ่อ-ลูก การเมืองการปกครอง เรื่องราวภายในพระราชวงศ์สยามและราชสำนัก โดยส่วนหนึ่งที่พระองค์ทรงเขียนพระราชหัตถเลขาก็เพื่อให้พระราชโอรสใช้ภาษาต่างประเทศได้อย่างแตกฉานโดยไม่ละทิ้งภาษาไทย
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่เล่าถึงคำสอนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการไม่ลืมคุณของประชาชนไทย เช่น
“ใช้เงินให้ประหยัดเพราะเป็นเงินที่ราษฎรเรี่ยไรมา และจงกลับมาสร้างประโยชน์แก่ราษฎร”
“อย่าคิดว่าเป็นลูกเจ้าแล้วจะถือตัวทำอะไรก็ได้ ให้อยู่เช่นคนธรรมดา มีคำนำหน้าเพียงมิสเตอร์”
ทั้งนี้พระราชหัตถเลขาส่วนหนึ่งมีข้อมูลโทรเลขเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในสมัยนั้น ทำให้หนังสือ ‘ถึงลูกคนเล็ก’ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของไทย นอกเหนือจากใจความสำคัญของความรักระหว่างพ่อลูก และคำชี้แนะในการทำงานเพื่อประชาชน
เนื่องในโอกาสวันปิยมหาราชที่เป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 วันที่ 23 ตุลาคม 2564 ขอร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน กลุ่มบริษัทเบญจจินดา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news