วันสหประชาชาติตรงกับวันที่ 24 ตุลาคม ของทุกปี โดยเกิดขึ้นครั้งแรกเพื่อต้องการแสดงความสำคัญขององค์กรสหประชาชาติ (United Nations : UN) ในปี ค.ศ.1945 ที่เป็นวันและปีเดียวกับที่ UN ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงความเสมอภาค สันติภาพ ความมั่นคง และหลักสิทธิมนุษยชน
ความสำคัญของ UN
UN มีความสำคัญมากถึงขนาดในบางประเทศประกาศให้วันที่ 24 ตุลาคมเป็นวันหยุดของทุกปี เช่น คอสตาริกาหรือเกาหลีใต้ ทั้งนี้ก็เพราะ UN หรือองค์กรสหประชาชาติมีส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพมาสู่สังคมโลกในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในสมัยนั้น โดยสาเหตุทั้งหมดมีวัตถุประสงค์ 3 อย่างในการจัดตั้ง UN ก็เพื่อ
- ต้องการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยสันติวิธี
- รับบทเป็นแกนกลางในการนำสันติภาพอันถาวรมาสู่โลก
- คอยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความร่วมมือช่วยเหลือระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ.1945 นี้กฎบัตรสหประชาชาติได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานของสันติในสังคมโลกเราภายใต้การลงนามของประเทศสมาชิกหลักทั้ง 5 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียต
UN กับ ประเทศไทย
ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกของ UN เป็นประเทศที่ 55 เมื่อปี ค.ศ.1946 นับจากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 75 ปีแล้วที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับและช่วยเหลือในฐานะหนึ่งในประเทศสมาชิก UN
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ให้ความร่วมมือกับ UN มาโดยตลอด และได้รับประโยชน์ทางความร่วมมือในหลายๆ ด้านทั้ง ด้านสันติภาพและความมั่นคง ด้านการพัฒนา และสิทธิมนุษยชน
โดยมีความสำเร็จหลายๆ อย่างที่ร่วมมือระหว่าง UN กับประเทศไทย เช่น อัตราการเกิดของประชากรในประเทศที่ลดลง การขจัดวัณโรค การสอนให้รู้จักสุขอนามัยพื้นฐาน ความรู้ในการป้องกันการติดเชื้อ HIV และเอดส์ ทำให้ประเทศไทยมีอยู่ในอันดับต้นของอาเซียนในการจัดอันดับเรื่องสุขอนามัย
วันสหประชาชาติ 24 ตุลาคมของทุกปีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของสันติภาพหลังสงครามแค่นั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมมนุษย์แต่ละชาติพันธุ์ให้เป็นหนึ่งได้ รวมถึงความเป็น UN ที่มุ่งเน้นถึงสันติและมนุษยชนยังได้ถ่ายทอดสู่คนหลายๆ คนให้รู้จักความเท่าเทียมของมนุษย์อีกด้วย
สำหรับใครที่ชื่นชอบสาระเกี่ยวกับวันสำคัญหรือความรู้รอบตัวติดตามต่อได้เลยที่ iNN Lifestyle
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news