ช่วงเข้าสู่ขวบปีที่ 8 ในหุบเขาอำนาจของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังเผชิญกับทุกสรรพสิ่งของปัญหา
ดาหน้ารายล้อมทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงความเชื่อมั่นและวิกฤติศรัทธาผู้นำ ผ่านหลากหลายเหตุการณ์ ยิ่งเฉพาะปัญหาปากท้องของชาวรากหญ้าที่ต้องแบกภาระจากการปรับขึ้นราคาสินค้าในหลายมิติ
อย่างที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอย่าง ราคาน้ำมันที่วันก่อน นายกฯเพิ่งเรียก 5 รองนายกฯหารือเข้ม โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เผยว่านายกฯได้หารือว่าจะทำอย่างไรให้สามารถตรึงราคาน้ำมันให้มากที่สุด ส่วนกระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเช่น ห้างโมเดิร์นเทรดมาประชุมและขอให้ตรึงราคาสินค้าไว้ทั้งหมด และกระทรวงพาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้สินค้าใดๆขึ้นราคา
ส่วนในเรื่องค่าไฟฟ้านั้น ทาง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ ออกมาระบุว่าค่าไฟในปี 2565 จะสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนพลังงานไฟฟ้าอย่าง “ก๊าซLNG” ปรับสูงขึ้นส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นแต่ไม่ได้ขึ้นเยอะในสเกลที่น่าตกใจ อาจจะขึ้นประมาณ 5-10 สตางค์/หน่วย ไม่ได้ขึ้นไปถึงขนาด 2-3 บาท/หน่วย
ขณะเดียวกันนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ออกมาแจงว่า 15 ธ.ค. นี้ เตรียมปรับขึ้นค่าทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ตามสัญญาสัมปทานหลังจากเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 5 ปีจากเดิมอัตราค่าผ่านทางรถขนาด 4 ล้อ ราคา 50 บาท จะปรับขึ้นเป็น 65 บาท, รถขนาด 6-10 ล้อ ราคา 80 บาท จะปรับขึ้นเป็น 105 บาท และขนาด 10 ล้อขึ้นไป ราคา 115 บาท จะปรับขึ้นเป็น 150 บาท
และก่อนหน้านี้ รถไฟฟ้า BTS ประกาศยกเลิกขายตั๋วโปรโมชั่นเที่ยวเดินทางรายเดือนทุกประเภทในวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนที่เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ต้องจ่ายเดินทางแพงขึ้น โดยทาง”ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)ออกมาระบุว่าค่าเดินทางคนกรุงหลัง “BTS ยกเลิกตั๋วเดือน” บางคนต้องจ่ายแพงขึ้นสูงสุด 130%
ด้านสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เตรียมปรับราคาหน้าฟาร์ม อีก 4 บาท ทะลุ 80 บาท อ้างต้นทุนขยับขึ้น ดันราคาเนื้อหมูขึ้น กก.ละ 6 บาท ทั้งนี้มีรายงานข่าวระบุว่า การปรับราคาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว นับจากที่ปรับขึ้นครั้งแรก 29 กันยายน 2564 และปรับขึ้นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 รวมแล้วราคาหมูหน้าฟาร์ม ปรับขึ้นไปถึง 12 บาทต่อกิโลกรัม
ไม่เท่านั้น นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเผย ว่า เดือนก.ย.64 เทียบเดือนก.ย.63 มีสินค้าและบริการที่ราคาเพิ่มขึ้น 204 รายการ โดยสินค้าที่ราคาสูงขึ้น เช่น น้ำมันปาล์ม 1 ลิตร ราคาเฉลี่ยเดือนก.ย.64 อยู่ที่ 47.03 บาท เพิ่มขึ้น 11.11 บาท จากเดือนก.ย.63 ของปีก่อน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30.43 บาท เพิ่มขึ้น 8.07 บาท
และแม้ว่านายกฯจะสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูและราคาพลังงานและติดตามราคาสินค้า ป้องกันการฉวยโอกาสในการขึ้นราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรม แต่ในทางการเมืองแล้วนี้คือการสะท้อนถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่อาจสอดคล้องกับสโลแกนที่ว่า “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”ซึ่งแน่นอนว่า เวลาบ้านเมืองมีปัญหาด้านปากท้อง ชาวบ้านร้านตลาดมักจะหวนคิดถึงคนไกลบ้านทุกครั้งไป!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news