ซาลาห์แฮตทริก!”หงส์” บุกถล่ม ”ผี” เละคาบ้าน 5-0
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำแฮตทริก พา ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มสุดหรูบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 ตัวเละคาบ้าน 5-0
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นเกมแดงเดือด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ฯ ยูไนเต็ด ที่เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ฝั่งปีศาจแดง เจ้าบ้านจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 วาง คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นหน้าเป้า โดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นันด์ส, เมสัน กรีนวู้ด คอยปั้นเกม
ฝั่งหงส์แดง ผู้มาเยือนเลือกใช้แผน 4-3-3 วาง ดิโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นสามประสานในแนวรุก ผลปรากฏว่า ครึ่งแรก นาทีที่ 4 แมนยูฯ น่าขึ้นนำสุดๆ เมื่อ เมสัน กรีนวู้ด จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ยิงโล่งๆ หลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 5 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะโต้กลับเร็ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ นาบี เกอิตา หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวาเข้าไป
จากนั้นนาทีที่ 14 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 2-0 เมื่อ นาบี เกอิตา จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ผ่านบอลเรียดเข้ากลาง และเป็น ดิโอโก โชตา ชาร์จจ่อๆ เข้าไป
ถึงนาทีที่ 38 ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลไปแฉลบ แฮร์รี แม็คไกวร์ บอลทะลักเข้าเขตโทษฝั่งขวามาเข้าทาง นาบี เกอิตา จ่ายเข้ากลางให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+5 ลิเวอร์พูล หนีไปไกลเป็น 4-0 จากจังหวะที่ ดิโอโก โชตา จ่ายบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายเข้าไปแบบสุดคม
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล ได้ประตู 5-0 จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าเขตโทษไปยิงตุงตาข่าย
ถึงนาทีที่ 60 แมนยูฯ ต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ พอล ป็อกบา ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรอง ไปทำฟาวล์หนักใส่ นาบี เกอิตา ตอนแรกผู้ตัดสินให้ใบเหลือง ก่อนจะไปเช็กวีเออาร์และเปลี่ยนเป็นใบแดง ไล่ป็อกบาออกจากสนาม
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง ตามหลัง เชลซี 1 คะแนน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news