“ชัยวุฒิ” ยันพปชร.ยังไม่เคยทำโพลตัดเกรดส.ส.
“ชัยวุฒิ” ยันพปชร.ยังไม่เคยทำโพลการคัดเลือกผู้รับสมัครลงเลือกตั้ง พื้นที่ภาคใต้ ชี้ยังไม่ถึงเวลา หากอยากรู้ว่าใครทำงานหรือไม่ทำงาน ถามประชาชนใน พื้นที่ก็รู้แล้ว
นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง การทำโพลการคัดเลือกผู้รับสมัครลงเลือกตั้ง ว่ายังไม่เคยมีการพูดคุยกัน เพราะยังไม่ถึงเวลาเลือกตั้ง แต่ในปกติเมื่อใกล้ถึงเวลาเลือกตั้ง ก็จะมีการคัดเลือกผู้สมัคร เป็นกระบวนการของพรรคอยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครเสียงไม่ดีประชาชนไม่นิยม ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งหลายพรรค ก็มีการทำโพล แข่งกันระหว่างผู้สมัคร เป็นเรื่องปกติ แต่ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลา ส่วนตอนนี้จะดูว่าผู้สมัครใครเป็นอย่างไรก็คงไม่ต้องทำโพล เราพูดคุยกันหรือถามคนในพื้นที่ ก็รู้อยู่แล้ว ว่าใครทำพื้นที่ ใครเป็นอย่างไร
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส. พรรคพื้นที่ภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนเสียงไม่ผ่านเกณฑ์เลย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าสื่อเอาข้อมูลมาจากไหน และได้สอบถามกันภายในพรรค ยังไม่เห็นข้อมูลนี้น่าจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเปลี่ยนตัวผู้สมัครพรรค หากผลออกมาไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีหลายคนไม่ผ่านเกณฑ์ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าต้องดูถึงช่วงการเลือกตั้ง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ซึ่งการจะส่งผู้สมัคร ต้องดูว่า จะมีใครมาขอลงกับทางพรรคบ้าง จากนั้นมาคัดเลือกกันเป็นกระบวนการที่เรียกว่าไพรมารีโหวต ซึ่งต้องทำอยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพรรคการเมือง ก็เป็นเรื่องปกติอย่าไปคิดมาก เพราะพรรคมีคะแนนนิยม คนอยากมาขอสมัครกันจำนวนมาก ก็ต้องคัดเลือกคนที่ดีที่สุดเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าอยากจะส่งใครลงก็ส่ง ก็ต้องดูคนที่มีความเหมาะสม ประชาชนนิยม สามารถที่จะทำงานให้พรรคได้
“ชัยวุฒิ”ออก พรก.คุมธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ป้องกันมิจฉาชีพใช้ช่องว่างหาประโยชน์ ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องขึ้นทะเบียน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังกล่าวถึงกรณีที่ประชุม ครม.เตรียมรับทราบ ร่างพระราชกำหนดว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. …. ว่า การออกพระราชกำหนดเพื่อวางระเบียบและกฎเกณฑ์ธุรกรรมและแพลตฟอร์มใดบ้างต้องมาจดแจ้งจดทะเบียน ซึ่งเมื่อผ่านที่ประชุม ครม.แล้ว ก็จะต้องไปออกกฎเกณฑ์รายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ซึ่งต่อไปโซเชียลมีเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือธุรกิจที่มีการโอนเงินกู้ ขายของ ต้องมีการจดแจ้งเพื่อจะได้ตรวจสอบว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้จะอยู่ต่างประเทศต้องมีตัวแทนในประเทศไทยรับผิดชอบต่อประชาชนและกฎหมายไทยเวลามีเรื่องร้อง มีปัญหา จะได้แก้ไขได้ รวมถึงการโอนเงินจะต้องมีการยืนยันตัวตนทำให้ชัดเจนจะไม่มีมิจฉาชีพเข้ามาใช้ช่องว่างในการหาประโยชน์จึงมีการออกกฎหมายมากำกับสิ่งเหล่านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news