สธ. มั่นใจ ไทยพร้อมเปิดประเทศ 1 พ.ย. ทุกมิติ หากระบาดรุนแรงเพิ่มจะยุติรับนักท่องเที่ยวทันที
วันนี้ (29 ต.ค. 64) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้ตรวจราชการสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5,6,8,9,11 แถลงถึงความพร้อมของเขตสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข รองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการความพร้อมด้านสถานที่ท่องเที่ยวทั้งภาคประชาชนและผู้ประกอบการ โดยดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19
สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งจำแนกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Quarantine Facilities (AQ,OQ,AHQ,SQ) กักตัว, Sandbox Program พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว และ Test to Go ไม่กักตัว สามารถเดินทางได้ทุกพื้นที่
สำหรับ Quarantine Facilities (AQ,OQ,AHQ,SQ) สามารถเดินทางมาจากประเทศใดก็ได้ โดยจะต้องกักตัวในสถานกักกันที่ราชการกำหนด มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พัก สถานที่กักกันที่ราชการกำหนดจำนวน 7,10,14 วัน มีประกันสุขภาพในวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ออกใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ซ้ำ ด้วยวิธี RT-PCR อีก 2 ครั้ง ในวันที่เดินทางมาถึงและวันที่ 6-7 หรือ 8-9
สำหรับ Sandbox Program สามารถเดินทางมาจากประเทศใดก็ได้ โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่ Sandbox เป็นเวลา 7 วัน ได้รับวัคซีนตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 14 วัน ก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีที่มากับผู้ปกครอง มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พัก SHA+ ในพื้นที่ sandbox จำนวน 7 วัน มีประกันสุขภาพในวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ออกใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ซ้ำ ครั้งแรกตรวจด้วยวิธี RT-PCR และครั้งที่สองตรวจด้วย ATK เมื่อมีอาการหรือในวันที่ 6-7
สำหรับ Test to Go จะต้องเดินทางมาจากประเทศที่กำหนด ซึ่งพำนักในประเทศที่กำหนดมากกว่า 21 วัน ก่อนการเดินทาง ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องรอผลตรวจ PT-PCR ใน AQ หรือ SHA+ ที่มี รพ. คู่ปฏิบัติการ ได้รับวัคซีนตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 14 วัน ก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มากับผู้ปกครอง มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พัก SHA+ หรือ AQ จำนวน 1 วัน มีประกันสุขภาพในวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ออกใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ซ้ำ ครั้งแรกตรวจด้วยวิธี RT-PCR และครั้งที่สองตรวจด้วย ATK เมื่อมีอาการหรือในวันที่ 6-7
ทั้งนี้ ภายหลังจากการเปิดประเทศ หากเกิดการระบาดเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 15 ราย ต่อประชากร 1 แสนคน ต่อสัปดาห์ มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ มีผู้ติดเชื้อครองเตียงตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป พบเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้างควบคุมไม่ได้ หรือหากเกิดเหตุการณ์กรณีอื่น ๆ จะให้เป็นการพิจารณาโดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด โดยอาจปรับหรือลดกิจกรรม ลดจำนวนเส้นทางท่องเที่ยว Hotel Quarantine ไปจนถึงการทบทวนและยุติการรับนักท่องเที่ยว
นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่า สถานการณ์เตียงล่าสุดในพื้นที่ 17 จังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว จากการประเมินรายจังหวัดพบว่าทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมอย่างดี และมีเตียงเพียงพอ โดยจะเห็นว่าภาพรวมการติดเชื้อภายในประเทศขณะนี้ลดลง โดยนอกจากเตียงหลักแล้วยังสามารถเพิ่มเตียงจากฮอสพิเทลด้วย โดยมั่นใจว่ามีเตียงรองรับเพียงพอแน่นอน
พร้อมย้ำว่าการเปิดประเทศเป็นการมองถึงความสมดุลในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน และดำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปอย่างรัดกุม อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าความพร้อมด้านระบบสุขภาพของประเทศไทยขณะนี้มีความพร้อมมาก รวมทั้งยังอยากให้ประชาชนรักษามาตรการดูแลตัวเองต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news