ประเดิมด้วยเหตุ“สภาล่ม”เป็น “สัญญานแรก”ของความวุ่นวายที่จะตามมาในฝ่ายนิติบัญญัติที่ถูกจับตาตั้งแต่ก่อนเปิดสมัยประชุมนี้ว่าอาจมี “อุบัติเหตุทางการเมือง”อันมีผลมาจาก “ศึกใน”ระหว่าง “นายพล กับ ผู้กอง”
เมื่อวาน(3พ.ย.64) ที่เหมือนเป็นการเจิมรอ “ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่”ที่จะมาแทน “วัรัช รัตนเศรษฐ”ประธานวิป แห่งกลุ่ม 3 ช.”ทีมผู้กอง” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับฟ้องคอดี “ทุจริตสร้างสนามฟุตบอลฟุตซอล”ส่งผลให้ต้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไปพร้อม ภริยา และน้องภริยา ที่เป็นส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ตั้งแต่วันที่ 2พ.ย.
ที่ก็เป็นอีกช็อตที่ทำให้ “หัวหน้าป้อม”ไม่สบอารมณ์ถึงกลับเดินหนีเมื่อถูกถามจากนักข่าว หลังจากที่ยอมรับว่าได้มีการคุยกับ “นายกฯลุงตู่”ไปแล้วเรื่องการตั้ง “ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่”ที่นายกฯต้องลงนาม แต่ก็ไม่บอกว่าใช่ “นิโรธ สุนทรเลขา”ส.ส.นครสวรรค์ พปชร. ที่ “นายกฯลุงตู่”โอเค หรือไม่ อย่างที่ “ชัยวุฒิ”ธนาคมานุสรณ์”ส่งสัญญาน ว่า เหมาะสม เพราะเป็น ส.ส.ที่มีประสบการณ์ทางการเมือง อีกทั้ง เป็นประธานกรรมาธิการตำรวจ และมีบทบาทในพรรค โดยระบุว่า การที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้ชื่อแล้ว แสดงว่า พล.อ.ประวิตร ส่งรายชื่อไปแล้ว
เรียกว่า จากอาการของฝ่ายบริหารที่คุมโดย “นายกฯลุงตู่”ที่กำลังลุ้น “การบ้าน” ผลการเปิดประเทศกลางดงโควิด ว่า จะ หมู่หรือจ่า มาสู่ อาการของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่อยู่ในโหมดรับผิดชอบของพรรคหลักรัฐบาล พปชร.ที่มี “หัวหน้าป้อม”กุมบังเหียน ที่กำลังเจอปัญหาผลกระทบ “การเมือง”จาก “ศึกใน”ที่เกิดอาการ “ขบเกลียว”ระหว่าง”นายพล”กับ”ผู้กองฯ”ที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอก ที่กำลังส่งผลกระทบวงกว้าง และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาลในสภา ยิ่ง มาขาด”ตัวประสาน”อย่าง”วิรัช”ที่ประสานส.ส.ฝ่ายค้านรัฐบาล มาแต่ต้น แต่ด้วยเพราะความระแวงหลังจาก “ป.น้องเล็ก”จึงพยายามปิดทุกจุดอ่อนตั้งแต่ครั้งที่จะขอย้ายให้ “วิปรัฐบาล”ไปประชุมที่ทำเนียบฯแล้ว แต่ที่จะเกิดปัญหาตามมาถัดจากนี้ที่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก คืออาการกระท่อนกระแท่นที่จะเกิดขึ้นในการ “คุมเกม”ไม่นับรวมการคุมจังหวะยามมีสถานการณ์ที่ต้องพึ่ง “กล้วย”ที่ “หัวจ่าย”ที่เปลี่ยนแปลงอาจมีปัญหา และยิ่งทำให้เกมสภาทำให้ “นายกฯลุงตู่”ยากจะนั่งติดเช่นกัน ที่ทั้งหมดปลายทางย่อมไปลงที่รัฐบาลเรือแป๊ะที่มีทั้งสนิมและเกิดรูรั่วในเสถียรภาพท่ามกลางความขัดแย้ง ที่จะเป็นอัตราเร่งไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทางอำนาจ
อย่างที่ “อดีตกุนซือรองนายกฯ”ไพศาล พืชมงคล” ตั้งข้อสังเกต ว่า การประชุมสภาวันแรกของสมัยประชุมนี้เมื่อวานนี้ ปรากฏว่าสภาล่มเป็นปฐมฤกษ์เพราะเหตุไม่ครบองค์ประชุม!!!รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา และเป็นหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเข้าประชุมให้ครบเป็นองค์ประชุมจะไปโยนความรับผิดชอบนี้ให้กับฝ่ายค้านไม่ได้!!! นี่เป็นความรับผิดชอบในระบอบประชาธิปไตย!หากแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ก็มีทางออกอยู่สองทางเท่านั้นคือ ลาออกหรือยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชนตัดสินใจ! เมื่อการประชุมนัดแรกเป็นเสียอย่างนี้ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของทุกวงการ รวมทั้งการลงทุนทั้งในประเทศและจากต่างประเทศเพราะมีความไม่แน่นอนว่าเสถียรภาพของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายหรือการบริหารราชการแผ่นดินจะไปรอดหรือไม่ จึงต้องจับตาการเมืองในสภาอย่างใกล้ชิด!!!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
