Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

วิกฤติข้าวตกต่ำ-ชาวนาเหลือทนลุง

แปลงนาที่คุณผู้ชมเห็นนี้ เป็นแปลงนาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ข้าวที่คุณผู้ชมเห็นได้ผ่านการเก็บเกี่ยวไปแล้ว และที่เหลือกำลังรอขาย แต่ตอนนั้นคงต้องมาลุ้นกันว่า จะขายข้าวได้ในราคาเท่าไหร่

 

 

เสียงสะท้อนของชาวนาที่บอกว่าราคาข้าวตกต่ำเหลือเกิน วันนี้ข้าวเปลือกเจ้าที่เก็บเกี่ยวแล้วขายได้กิโลกรัมละ 5 บาท ลงทุนลงแรงไปแทบไม่ได้อะไรกลับมา เพราะข้าวความชื้นสูงถูกหักราคายิบย่อย แต่ทุกอย่างก็ถือเป็นกติกา ที่ชาวนาเองก็รู้อยู่แล้ว จะไม่ขายก็ทำไม่ได้แต่ขายก็ไม่ได้ราคา ทางเลือกของชาวนามีอะไรบ้าง

 

นายสมพงษ์ คงขาว ชาวนา จังหวัด ปทุมธานี ซึ่งทำนาปรัง 17 ไร่ โดยการขายจะถูกหักค่าความชื้น ขายได้ในราคาตันละ 5,000 บาท คือ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ในขณะที่ต้นทุนปลูกข้าวอยู่ที่ตันละ 3,000 บาท โดยมีการทำนายมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าจะเปลี่ยนอาชีพก็ไม่สามารถทำได้

 

โดยการขายข้าวในราคาปัจจุบันราคาแทบไม่พอรายจ่าย ซึ่งมีการปรับสูงขึ้นทั้งค่าปุ๋ยกระสอบละกว่า 1,000 บาท ค่าน้ำมัน ค่าแรงงานในการเก็บเกี่ยว จึงอยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือชาวนาให้สามารถยังประกอบอาชีพอยู่ได้และมีรายได้ที่พอเลี้ยงตัวเอง

 

โดยนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ยอมรับเครียดมากกับสถานการณ์ราคาข้าวเวลานี้ที่ถือว่าตกต่ำเหลือเกิน โดยราคาข้าวเปลือกเจ้า เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 5-7 บาท เป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นการส่งออกข้าวที่ลดลงเพราะผู้ส่งออกเองมีต้นทุนจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้นและตู้คอนเทนเนอร์ที่ขาดแคลนทำให้การแข่งขันส่งออกได้ยาก แต่ปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชาวนาเองคือการเกี่ยวข้าวสดทำให้ถูกหักค่าความชื้นสูง ซึ่งความชื้นของข้าวเกี่ยวสดเวลานี้อยู่ที่ร้อยละ 25-35 ในขณะที่ค่าความชื้น มาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์อยู่ที่ร้อยละ15 แต่จะให้ชาวนาเกี่ยวข้าวสดในปริมาณมากและตากจนความชื้นต่ำก็ไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องขายให้โรงสีที่รับซื้อในราคาต่ำ ในขณะที่โรงสีเอง สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ทำให้ขาดสภาพคล่องซื้อข้าวได้น้อยและมีบางแห่งปิดตัวเลิกกิจการไปแล้วนับร้อยราย

 

โดยเวลานี้ชาวนามีความหวังว่าการประกันรายได้ของรัฐบาลในข้าว 5 ชนิด จะมาช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชาวนามากขึ้น ทำให้ขายข้าวเปลือกได้พอคุ้มทุน ที่ปรับสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าปุ๋ย วัสดุทางการเกษตร รวมถึงราคาน้ำมันที่ใช้เกี่ยวและขนข้าว และในอนาคตเมื่อผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 และสถานการณ์ที่รุมเร้าเวลานี้ไปแล้ว ชาวนาอยากให้รัฐบาลดูแลเกษตรกรชาวนาอย่างจริงจัง ไม่ปล่อยปละละเลยให้ต้องเผชิญกับวิกฤตแบบไม่มีทางออก

 

ราคาข้าวชาวนาตกต่ำ ข้ามมาดูราคาข้าวสารบรรจุถุง ที่ผู้บริโภคต้องซื้ออยู่ในปัจจุบัน สำรวจจากห้างค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดใหญ่และตลาดสดต่างๆ ล่าสุดราคา ข้าวสารบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม ข้าวขาว 100% ตราแสนดี อยู่ที่ถุงละ 85-137 บาท ตรามาบุญครอง ถุงสีฟ้า ถุงละ 119-121 บาท แต่หากเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ตราหงษ์ทอง ราคาถุงละ 185-269 บาท ตรามาบุญครอง ราคาถุงละ 199-260 บาท ตราเบญจรงค์ชาววัง ราคาถุงละ 145-207 บาท และในส่วนของข้าวสารตวง ข้าวขาว กิโลกรัมละ 18-25 บาท ข้าวหอมมะลิกิโลกรัมละ 28-49 บาท ข้าวสารบรรจุถุงอาจใช้ข้ออ้างบรรจุภัณฑ์และค่าวางจำหน่ายในห้างต่างๆ ทำให้ราคาสูงกว่าข้าวจากชาวนาอยู่มาก แต่ข้าวสารตวงขาย ที่ต้นทุนบรรจุภัณฑ์น้อยก็ยังราคาสูงผู้บริโภคคงไม่มีทางเลือกมากนัก

 

วิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นลูกโซ่ ได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้าทั้งชาวนา โรงสี ผู้ส่งออก ผู้บริโภค ใครจะเข้ามาแก้วิกฤตนี้และต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไป ..

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube