“ประภัตร” สถานการณ์น้ำในสุพรรณบุรี คาด 3 วันลด ระดมติดตั้งเครื่องผลักดัน-หน่วงน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา เร่งหาพันธุ์ข้าวใหม่ ให้ชาวนาใน 3 ปี หวังลดต้นทุนการผลิต
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำ ท่วมขังในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรีว่า ขณะนี้ น้ำที่เข้าท่วมในพื้นที่ อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง ยังคงเป็นน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าถึง1 ,000 ล้านคิว ซึ่งทางจังหวัด ได้ใช้วิธีการขอให้มีการหน่วงน้ำหรือชะลอน้ำ ที่ประตูน้ำพลเทพ ท่าโบสถ์ สามชุก โพธิ์พระยา เขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนกระเสียว เพื่อลดการระบายน้ำลงมา ขณะเดียวกันกรมชลประทานก็ใช้เครื่องผลักดันน้ำ 20 เครื่อง ที่ อ.สองพี่น้อง ก็จะช่วย ผลักดันน้ำได้ในปริมาณที่มากพอสมควรและจะให้ น้ำลดลงได้ภายในสามวันนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก พร้อมยอมรับว่าประชาชนในพื้นที่ลำบากมาก แต่ยืนยันว่า หากดำเนินการชะลอน้ำเหมือนที่กล่าวมาตามขั้นต้น จะช่วยประชาชนในพื้นที่ได้ และย้ำว่านายกรัฐมนตรีได้กำชับ ให้ไปดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นายประภัตร ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือชาวนาที่ราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้ว่า เกิดจากราคาข้าวในตลาดโลก ประกอบกับปีนี้การทำนา ชาวนาประสบกับปัญหา น้ำท่วมฝนแล้ง จึงส่งผลให้การส่งออก ตกลงด้วย จากเดิมที่เคยส่งออกได้ 11 ล้านตัน แต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่งออกได้แค่ 4 ล้านตัน มองว่าการผลักดันราคาข้าวเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ รัฐบาลก็ได้เร่งช่วยเหลือชาวนา ด้วยการอนุมัติเงินประกันรายได้ เกษตรกรแล้ว ถือเป็นการกระตุ้นให้ตลาดดีขึ้น ทำให้พ่อค้าคนกลางไม่กดราคาข้าว ส่วนการช่วยเหลือชาวนาในอนาคต นายกรัฐมนตรีกำชับให้มีการลดต้นทุนการผลิต ดังนั้น จึงมีแนวทางจัดหาพันธุ์ข้าวให้กับชาวนา ที่ขณะนี้ไม่ได้มาตรฐาน และชาวนาได้เก็บพันธุ์ข้าวไว้นานเกิน 10 ปีแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ได้ผลผลิตต่ำลง จึงจะมีการเปลี่ยนพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ โดยใช้ระยะเวลา 3 ปี โดยปีนี้จะเริ่มที่ข้าวหอมในพื้นที่ 27 ล้านไร่ พร้อมย้ำว่ากระทรวงเกษตรฯ ผลักดันมาตรการต่างๆเพื่อสนับสนุน ให้ราคาข้าวสูงขึ้น ลดต้นทุนการผลิต ส่วนการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ และย้ำว่ากระทรวงเกษตรฯพร้อมที่จะรับฟังปัญหาชาวนา เพื่อให้ได้ราคาข้าวที่สูงขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
