นายกฯ หารือ รมว.กต.สหราชอาณาจักร ยืนยันความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่รอบด้าน พร้อมผลักดันความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
นางเอลิซาเบท ทรัสส์ (ลิซ) (The Right Honourable Elizabeth Truss MP) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดนนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร โดยเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของสหราชอาณาจักร โดยเชื่อมั่นว่าไทยและสหราชอาณาจักรยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และความมั่นคง ทั้งนี้ ทราบว่าไทยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าร่วม CPTPP ซึ่งสหราชอาณาจักรพร้อมให้คำแนะนำและทำงานร่วมกับไทย เพื่อเป็นอีกกลไกในการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าระหว่างกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี? ยินดีที่นักลงทุนจากสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในสาขาพลังงานสีเขียว เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าในมิติด้าน เทคโนโลยี การศึกษา และนวัตกรรม เป็นสาขาที่มีความสำคัญและทั้งสองฝ่ายควรพิจารณาเพิ่มพูนความร่วมมือมากขึ้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้
ด้านสาธารณสุขและนโยบายด้านวัคซีน นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสหราชอาณาจักรที่ได้มอบวัคซีน AstraZeneca แก่ไทย และได้ให้การรับรองวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ สะท้อนถึงความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่แน่นแฟ้น นายกรัฐมนตรี เชิญชวนให้สหราชอาณาจักรร่วมมือกับไทยในการวิจัยวัคซีน ChulaCov-19 ซึ่งพัฒนาโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง
ด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยได้เปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว
ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น ผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ที่ไทยและสหราชอาณาจักรมีอยู่แล้ว รวมถึงส่งเสริมให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศมีบทบาทในกลไกดังกล่าว ตลอดจนการแสวงหาความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ซึ่งไทยพร้อมให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันต่อไป
ในตอนท้าย ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยืนยันว่าไทยต้องการเห็นสันติภาพและเสถียรภาพกลับคืนสู่เมียนมา และต้องการให้มีการเจรจาหาทางออกร่วมกันด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ดี ไทยขอบคุณสหราชอาณาจักรที่ได้ให้การสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา และหวังว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงสนับสนุนอาเซียนต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news