ฝากขังมือปืนยิงญาติดับ2เจ็บ1ปมมรดกที่ดิน
ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหายิงญาติเสียชีวิต 2 ศพบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ปมมรดกที่ดิน ไปฝากขังยังศาลอาญาตลิ่งชัน -ผู้ต้องหา เผยไม่พอใจถูกด่าทอเป็นหมาวัดก่อนจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ
พนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ควบคุมตัวนายธุรการ ยังบรรเทา อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ร.ต.ทำนุ แจ้งจิตร อายุ 61 ปี และ นายสมัชฌ์ ประชุมพันธ์ อายุ 40 ปี เสียชีวิตทั้ง 2 รายและยังยิง น.อ.สันชัย ประชุมพันธ์ อายุ 59 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย เหตุเกิดภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 บริเวณบ้านของผู้ตายและผู้ก่อเหตุที่เป็นเครือญาติกันเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาไปขออำนาจศาลอาญาตลิ่งชันฝากขังรวม 5 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่รับอนุญาต, ยิงปืนในสถานที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ บุกรุกเคหสถานท้ายคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ระหว่างที่ นายธุรการ ผู้ต้องหาขึ้นรถควบคุมได้เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองถูกด่าทอก่อนด้วยคำหยาบคาย ว่า เป็นหมาวัด ซึ่งเป็นคำพูดที่จี้ใจดำ เนื่องจากตนเองเคยอาศัยอยู่ที่วัดจริง ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาเล็งยิงให้ถึงชีวิต เนื่องจากตนเองไม่ได้ยิงปืนมานานหลายปีแล้ว แต่อยากฝากขอโทษผู้เสียชีวิต พร้อมกับอยากนำเงินไปช่วยเหลืองานศพ ขณะที่ประเด็นที่มีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ยอมรับว่ามีปัญหากันมาก่อนหน้านี้จริง โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีหน้า (2565) นี้ ซึ่งตนตั้งใจจะไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในวันนั้น แต่กลับมาเกิดเหตุด่าทอกระทบจิตใจตนเสียก่อนจึงทำให้ บันดาลโทสะก่อเหตุยิง
ในขณะที่ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายปองภูมิ ยัง ยังบรรเทาลูกชายของผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่าวันนี้ไม่ได้เดินทางมาที่ สน.บางขุนนนท์ เนื่องจากเดินทางไปที่ศาลพร้อมทนายความและเตรียมยื่นขอประกันตัวบิดา โดยเตรียมหลักทรัพย์มาจำนวนหนึ่ง
ทางด้าน พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก.สน.บางขุนนนท์ กล่าวว่าทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวนำตัวนายธุรการ ยังบรรเทา ผู้ต้องหาไปยื่นฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชัน โดยคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เบื้องต้นแจ้งข้อหา 5 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่า พยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนฯ ยิงปืนในที่สาธารณะฯ และบุกรุก ตนยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายรวมถึง จะตรวจสอบกรณีที่ฝ่ายลูกชายผู้ต้องหาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพยานหลักฐานหาข้อเท็จจริงถึงมูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้
พ.ต.อ.ธีระ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ลูกชายผู้ก่อเหตุอยู่ที่เกิดเหตุแล้วถ่ายคลิปขณะเกิดเหตุไว้โดยไม่มีการห้ามปรามนั้น ทางตำรวจอยู่ระหว่างรวมหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุครั้งนี้หรือไม่หากพบพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องก็จะมีการพิจารณาดำเนินคดี ส่วนมาตรการป้องกันกรณีปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งของเครือญาติผู้ก่อเหตุ อาจจะนำไปสู่เหตุความรุนแรงหรือไม่ยืนยันตำรวจได้มีการวางมาตรการป้องกันโดยให้สายตรวจ ไปทำความเข้าใจ รวมทั้ง ให้โทรศัพท์ติดต่อกับครอบครัวผู้เสียหาย หากหวั่นว่าจะเกิดความรุนแรง สามารถโทรแจ้งตำรวจได้โดยตรงทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news