3 อุทยานฯพังงาพร้อมขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
สามอุทยานฯ หาดท้ายเหมือง เกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ ขานรับขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
จากการที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมนำเสนอขึ้นทะเบียนพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ ระนอง พังงา และภูเก็ต เป็นแหล่งมรดกโลก ให้ศูนย์มรดกโลกได้ภายในวันที่ 15 เมษายน 2565 จะได้รับการนำเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 45 เพื่อให้การรับรองการเข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลก และจัดส่งเอกสารการนำเสนอเป็นมรดกโลกได้ตั้งแต่ปี 2566 แหล่งมรดกทางธรรมชาติพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน แหล่งมรดกโลก พื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ ระนอง พังงา และภูเก็ต ประกอบด้วย 6 พื้นที่อุทยาน และ 1 พื้นที่ป่าชายเลน โดยจังหวัดพังงา ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ มีแนวปะการังขนาดใหญ่ที่ก่อตัวต่อเนื่องกันเป็นลักษณะซึ่งจัดได้ว่ามีการพัฒนาสูงสุดในประเทศไทย จึงเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก,อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มีปะการังหลายชนิดที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศ เป็นแนวปะการังน้ำลึกและเป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเลหายาก เช่น กระเบนราหู วาฬหัวทุย และโลมา และอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เป็นแหล่งวางไข่ที่สำคัญของเต่ามะเฟืองที่เหลืออยู่ฝั่งอันดามัน ซึ่งพบว่าตอนนี้เพียง 3 ที่ที่เต่ามะเฟืองจะขึ้นมาวางไข่คือ อุทยานสิรินาถ ชายหาดเขาลำปี-หาดท้ายเหมืองและเกาะพระทอง
นายหฤษฎ์ชัย ฤทธิช่วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง กล่าวว่า พื้นที่อันดามันตอนเหนือใกล้เคียงที่จะได้รับการเสนอเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเสนอได้รับการศึกษามาตั้งแต่จังหวัดระนอง พื้นที่ป่าชายเลน กระบุรีลงมา อุทยานแห่งชาติแหลมสน ไล่มาจนถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและอุทยานแห่งชาติเขาลำปีหาดท้ายเหมือง เพราะว่าพื้นที่หลายๆจุดมีความโดดเด่นทางสภาพธรรมชาติมีความสำคัญเป็นพื้นที่อาศัยของสัตว์ป่าสงวน โดยเฉพาะพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี หาดท้ายเหมือง ได้รับการขนานนามว่าเป็นพื้นที่ป่าชายหาดที่สมบูรณ์และยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นพื้นที่ที่สัตว์ทะเลหายากคือเต่ามะเฟืองซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 18 ขึ้นมาวางไข่เป็นประจำทุกปีและเป็นแหล่งอาศัยของเต่ามะเฟืองอีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news