กทม. เตรียมพร้อมพื้นที่สะพานพระราม8-คลองโอ่งอ่าง ตรวจ ATK ร้านค้า ก่อนเปิดงานลอยกระทงพรุ่งนี้
วันนี้ ทีมข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมลอยกระทง ประจำปี 2564 บริเวณสะพานพระรามแปด และคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นสองจุดที่กรุงเทพมหานครกำหนดให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลักในปีนี้
จากการสำรวจการเตรียมความพร้อมของสถานที่จัดกิจกรรม บริเวณสะพานพระราม 8 พบว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมอำนวยความสะดวกในพื้นที่ให้กับประชาชน โดยมีการตัดตอไม้ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ประดับตกแต่งพื้นที่โดยรอบและบริเวณเวทีมหรสพ รวมทั้งมีการเตรียมติดป้ายประกาศข้อห้ามต่างๆ และติดข้อมูลเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ตลอดข้างตั้งแต่เริ่มเดินเข้างาน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างมาจับจองพื้นที่สำหรับการขายของในวันพรุ่งนี้แล้วตลอดทั้งแนว ซึ่งหลายร้านมีการติดป้ายรับรองการได้รับวัคซีนของพนักงานครบทั้ง 2 เข็ม โดยวันพรุ่งนี้จะมีการเริ่มกิจกรรมลอยกระทง ตั้งแต่ เวลา 17.00 – 22.00 น.
ส่วนบริเวณคลองโอ่งอ่าง พบว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร มีการเข้าทำความสะอาดและประดับตกแต่งบริเวณโดยรอบคลอง และมีการจัดโป๊ะสำหรับให้ประชาชนลงไปลอยกระทง 3 โป๊ะ แต่ละโป๊ะ ไม่เกิน 20 คน พร้อมจัดตั้งจุดตรวจคัดกรอง ทั้งสิ้น 13 จุด สำหรับประชาชนที่จะเข้าร่วมงานลอยกระทง โดยจะเริ่มกิจกรรมลอยกระทง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. 2564 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
ด้านนางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ระบุว่า วันนี้มีการเตรียมพร้อมในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยก่อนการจัดกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งมีการตรวจ ATK ร้านค้าบริเวณรอบคลองโอ่งอ่าง เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการมาร่วมกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ หากร้านใดไม่ตรวจจะไม่สามารถเปิดขายได้ โดยความพร้อมขณะนี้อยู่ที่ 90% แล้ว ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมลอยกระทงทั้ง 2 จุดหลัก ประชาชนที่เข้าร่วมจะต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 2 เข็ม หรือผลตรวจ ATK เป็นลบ หากไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมงาน โดยจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มตลอดทั้งพื้นที่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news