3 หมอบอสค่ายการเมือง..เลือก”ใคร”รักษาประเทศ ใครที่ต้องตกรอบ
ในบรรดานักการเมืองยุคปัจจุบันมี คุณหมอ โลดแล่นในสนามการเมืองหลายคน ทั้งในบทบาทสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือจะเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่มีอยู่ 3คนที่โดดเด่นในระดับได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งย่อมหมายถึงการอาจได้เป็นแคนนิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปอีกด้วย
คนแรกคือนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.จ.น่าน เขต 2 ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ โดยหมอชลน่านอายุ 60ปี เป็นคน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จบหมอจากศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปี2529และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากนิด้า ในอดีตเคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 5 สมัย และ สื่อมวลชนเคยยกย่องให้เป็น “ดาวสภาฯ” ประจำปี 2552 ซึ่งหมอชลน่านเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตัว เขาให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวอิศรา ถึงความรู้สึกที่ได้รับเลือกในตำแหน่งหัวหน้าพรรค ว่า “ความจริงมีคนอื่นมีความเหมาะสมมากกว่าผมเยอะ แต่เขาไม่ได้เป็น ส.ส. เมื่อเลือกจาก ส.ส. เทียบความอาวุโสทางการเมือง ผมอยู่มาตั้งแต่ปี 2544 คาบเกี่ยวระหว่างคนรุ่นเดิมกับคนรุ่นใหม่ ก็เป็นช่วงจังหวะวัยของเรา”
ส่วนเบื้องหลังการถ่ายทำดันหมอชลน่านนั้น ว่ากันว่าใกล้ชิดกับ เจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ ในฐานะแกนนำกลุ่มวังบัวบาน อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และอดีตประธาน ส.ส.ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทย รวมไปถึงยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของทักษิณ อีกด้วย จึงเป็นแรงผลักดันมหาศาลส่งหมอชลน่านขึ้นตำแหน่ง นอกจากนี้ ค่ายเพื่อไทย ไม่ธรรมดานอกจากมีคุณหมอเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ยัง มีนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ”หมอเลี้ยบ เป็นผู้อำนวยการพรรคอีกด้วย ซึ่งต้องจับตาว่า 2หมอจะหนุนนำให้เพื่อไทยไปไกลได้แค่ไหน
มาต่อที่หมอคนที่ 2.นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อายุ60 ปี หัวหน้าพรรคไทยภักดี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ มายาวนาน และเคยเป็นแคนนิเดตหัวหน้าค่ายประชาธิปัตย์ แต่พ่ายให้คู่แข่งทำให้ออกมาสร้างดาวของตนเอง โดยหมอวรงค์ เป็นคน จังหวัดสุโขทัย จบหมอจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จบโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากนิด้าเหมือนกับหมอชลน่าน
หมอวรงค์ เป็น สส. มา3สมัย เคยเป็น รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และสร้างชื่อเสียงจากตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเรื่องนโยบายจำนำข้าว จนนำมาสู่คดีความต่างๆ ซึ่งบทบาทของหมอวรงค์แสดงออกอย่างเด่นชัดว่าอยู่คนละข้างกับม๊อบ3นิ้วและพรรรคเพื่อไทย พร้อมกันนั้นยังเดินทางตรวจสอบประเด็นสาธารณะอย่างต่อเนื่องจนโดยฟ้องร้องหลายคดีเช่นถูกนายธนาธร และพรรคก้าวไกลฟ้องคดีละ 24ล้านบาท สองคดีก็เกือบ 50 ล้านบาท ล่าสุดต่อสู้เรื่องทวงคืนดาวเทียมไทยคมเพิ่งได้รับหมายศาลจากบริษัทกัลฟ์ ฟ้อง 100 ล้านบาท
และหมอคนที่
3.นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ อายุ 68 ปี จบแพทยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนนี้อาจไม่ดังมาก แต่บทบาทที่ผ่านมาก็มีจุดยืนชัดเจนทั้ง ค้านแก้ไข มาตรา 112 หรือจะแสดงความเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาล รธน.ต่อคดี 3 แกนนำกลุ่มราษฎร ว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองอย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 หมอคนดังเหล่านี้ต่างเสนอตัวเล่นการเมืองเพื่อรับใช้ประชาชน แต่สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับว่า”ใคร”จะถูกเลือกให้เข้ามารักษาประเทศในอนาคตต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆ แบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_ne
