แบล็คเพิร์ลฯ ยันเจ๊า จ่าฝูง ฟรีไฟร์ บลูเวฟ ชลบุรี 1-1 หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 7 เกม แต่จ่าฝูงยังไม่เปลี่ยนมือ ขณะที่คู่ของ แบงค็อกฯ กับ การท่าเรือ ต้องเลื่อนการแข่งขันครึ่งหลังออกไปจากเหตุการหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดช่วงพักครึ่ง
ศึก ฟุตซอลไทยลีก2021/2022 แมตซ์เดย์11 วันพุธที่ 24 พ.ย.64 ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก แข่งขันสนามกลางแบบปิดตามมาตรการ ศบค. มีเกมลงเตะทั้งหมด 4 คู่ บิ๊กแมตซ์ 5 ดาว ลงเตะเป็นคู่แรกเวลา 9.30 น. “นักรบโจรสลัด” แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ที่มี 20 แต้มจาก 10 นัด ลงสนามพบจ่าฝูงแชมป์เก่า “ฉลามโต๊ะเล็ก” ฟรีไฟร์ บลูเวฟ ชลบุรี ที่มี 24 แต้มจาก 9 นัด
โค้ชจูรานดีร์ กุนซือ แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด เกมนี้ไม่มีชื่อของ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร และ ณัฐพล สุทธิโรจน์ ที่ไม่สมบูรณ์ อดเจอทีมเก่า วาง ฟาบริซิโอ , เนเน่ , ธนาธิป แสงสังข์ และ ภาณุพงศ์ หินนอก ลงบู๊ ด้าน โค้ชเซซาร์ กุนซือ ฟรีไฟร์ บลูเวฟ ชลบุรี ยังจัดทัพใหญ่ รณชัย จูงวงษ์สุข , กฤษดา วงษ์แก้ว , มูฮัมหมัด อุสมานมูซา และ เปลินญ่า ลงลุยเพื่อหวัง 3 คะแนนในการฉีกหนีคู่แข่งต่อไป
ครึ่งแรกเกมเปิดแลกกันสุดมัน แต่กว่าจะมีประตูต้องรอถึง 20 วินาทีสุดท้าย ธนพล มณีเพชร ชาร์จลูกคิกอินจาก ฟาบริซิโอ ส่งให้ที่ริมซ้าย ช่วยให้ แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรก
เกมครึ่งหลัง ฟรีไฟร์ บลูเวฟ ชลบุรี เปิดเกมโหมบุกหนักก่อนจะมาตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 27 จากจังหวะหลุดเข้าไปงัดบอลข้ามแบบเหนือชั้นของ กฤษดา วงษ์แก้ว เวลาที่เหลือยิงสกอร์เพิ่มไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม ทำให้ ฟรีไฟร์ บลูเวฟ ชลบุรี หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 7 เกมและนับเป็นการเสมอนัดแรกของฤดูกาล แข่ง 10 นัด มี 25 แต้ม ยังรั้งจ่าฝูงต่อ ส่วน แบล็คเพิร์ลฯ 11 นัด มี 21 แต้ม
ขณะที่บิ๊กแมตช์อีกคู่ลงเตะในเวลา 12.30น. “อัศวินเมืองหลวง” แบงค็อก บีทีเอส อันดับ 5 ที่มี 16 แต้ม จาก 9 นัด เกมนี้ไม่มีกัปตัน ปัญญพนธ์ พุ่มวิเศษ ที่ติดโทษแบน พบ การท่าเรือ อันดับ 4 มี 19 แต้ม จาก 9 นัด ไม่มี มาร์กอส วินิซิอุส ที่ยังบาดเจ็บ
เริ่มมา 12 นาทีจังหวะพรมงคล ศรีทรัพย์แสง จ่ายพลาดไปถวายพานให้ พีระพล สัตย์ซื่อ ได้ยิงล่อเป้าเหน่งๆให้ แบงค็อกฯ ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่นาทีที่ 15 ราม่อน ปาเบา จะมาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงจังหวะไปตัดเกมใส่ทาง อนันตชัย ปราบวงษา และถัดมาอีก 1 นาที การท่าเรือ ที่อาศัยตัวผู้เล่นเยอะกว่ามาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จาก อิทธิชา ประพาพันธ์ ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ทว่าระหว่างช่วงพักครึ่งเกิดเหตุการหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดทำให้การแข่งขันถูกพักไปนาน ทางแมตช์คอมมิชชั่นเนอร์ ได้หารือกับทางผู้ตัดสิน และผู้บริหารของทั้งสองทีม เห็นพ้องให้เลื่อนก่อนแข่งขันออกไปก่อนและจะประกาศให้ทราบถึงวันเวลาแข่งขันอีกครั้ง
โดยอิงตามระเบียบ กรณีเกิดเหตุสุดวิลัย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันต่อได้จนจบการแข่งขัน ซึ่ง การแข่งขันจบครึ่งแรกแล้ว แต่ยังไม่จบครึ่งหลัง ให้แข่งขันใหม่ตามเวลาที่เหลือ คงผลการแข่งขันและรายชื่อนักกีฬาเดิมในวันนั้น คงใบเหลือง – ใบแดง ฟาวล์รวมทีมต่อเนื่อง
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่กลับมาลงเตะในเวลา 15.30น. นนทบุรี ฟุตซอลคลับ ชนะ ราชภัฎเพชรบุรี H3 2-0 ทำให้ นนทบุรี กลับมาคว้าชัยได้อีกครั้งในรอบ 8 เกมนับตั้งแต่ลงสนามนัดแรกของฤดูกาลเก็บเพิ่มเป็น 9 แต้ม อยู่อันดับ 11 ส่วนคู่สุดท้าย เกษมบัณฑิต เอฟซี ชนะ เอ็นที ฟุตซอลคลับ 4-3 ทำให้ เกษมบัณฑิต ปลดล็อคกลับมาคว้าชัยในรอบ 4 เกมพร้อมทำแต้มแซงเอ็นที ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ของตาราง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news