“อนุทิน” เผยเตรียมชงศบค.ชุดใหญ่ผ่อนคลายเปิดประเทศระยะ 2 พรุ่งนี้ ระบุอย่าเอาสถานการณ์ยุโรปวิกฤตเทียบไทย เหตุมาตรการเข้มต่างกัน รับมีกระทบการท่องเที่ยว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พรุ่งนี้ในที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่จะมีการหารือเรื่องการเปิดประเทศในระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดว่าหลังเดือนธันวาคมจะมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีความสะดวก เช่น ใช้การตรวจ ATK เมื่อมาถึงประเทศแล้วแทนการทำ RT-PCR ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติพร้อมย้ำว่า ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ศบค.เป็นผู้พิจารณา
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศที่เริ่มกลับมาล็อคดาวน์มากขึ้นสาธารณสุขไทยจะต้องเตรียมรับมืออะไรหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ในยุโรปมาตรการต่างๆไม่เหมือนกับเรา อย่างในไทยยังไม่อนุญาตให้เชียร์บอล 5-6 หมื่นคน และอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรไทยมากกว่า จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ และมาตรการการตรวจคัดกรองของไทยยังเข้มอยู่ เช่น ผู้ที่เข้าประเทศต้องมีประกันสุขภาพ ตรวจ RT-PCR รวมไปถึงต้องมีการโชว์ใบฉีดวัคซีนว่าครบโดสตามที่รัฐบาลไทยยอมรับแล้วหรือไม่
ซึ่งหากไม่ใช่การลักลอบเข้าไทยก็มองว่ายังไม่พ้น ซึ่งหากพบว่าใครมีอาการก็ส่งเข้าโรงพยาบาลทันที ซึ่งไม่ใช่งบประมาณของเรา แต่มองว่าจะไปล็อคทุกอย่างเลยเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อไม่ได้เพราะประชาชนจะทำมาหากินไม่ได้ เศรษฐกิจเดินหน้าไม่ได้ก็ไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งต้องหาวิถีทางทุกมิติเพื่อให้สามารถเดินหน้าได้ โดยไม่ต้องลดความเสี่ยงหรือความปลอดภัย
ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศจะส่งผลกระทบกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ นายอนุทิน ยอมรับว่า ก็มีผลในระดับหนึ่ง เพราะไม่ให้คนของเขาเดินทางเข้าออก แต่ในส่วนของประเทศไทยขณะนี้เปิดรับแต่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เรากำหนด ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหา อะไรที่ผ่อนคลายแล้วเกิดความปลอดภัยก็ยังสามารถทำได้
นอกจากนั้นนายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกอบการ กิจการสถานบันเทิงออกมาเรียกร้องให้เปิดในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ว่าขอให้ผู้ประกอบการ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ดำเนินมาตรการ covid free setting หากทำได้อย่างเรียบร้อย แสดงให้เห็นถึงความสามารถ เราพร้อมที่จะผ่อนคลายแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ ซึ่งยังเห็นคนที่ไม่ฉีดวัคซีน เช่น ตำแหน่งบริกร หากไม่ฉีดวัคซีนจะเป็นอันตรายมาก เพราะต้องสัมผัสอาหาร ตักน้ำแข็ง ซึ่งตนได้ร้องขอไปทางกรมควบคุมโรคและกรมอนามัย เร่งทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้เข้มมากที่สุดมิเช่นนั้นจะขยับอะไรลำบาก
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความกังวลคลัสเตอร์สถานบันเทิง กังวลความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและกังวลถึงโอกาสคนทำมาหากิน นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการตลอดว่าหากมียาอะไรดีให้จัดหามาได้เป็นประเทศแรกๆ รวมทั้งเร่งจัดหาวัคซีนให้ประชาชนมากที่สุด ย้ำว่านายกรัฐมนตรีสนับสนุนงบประมาณต่างๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาขาดแคลนวัคซีนและยังจัดซื้อจัดหาสำหรับปีหน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ก็ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 30 ล้านโดสไปแล้ว รวมถึงการป้องกันหลายอย่างที่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการพิจารณาการคลายล็อค เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนกลับมาทำมาหากินได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
