“หมออุดม”ยันศบค.ผ่อนคลายมาตรการอีกแน่นอน ขอทุกคนเคร่งครัดป้องกันตัวเอง เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีน ห่วง WHOเตือนจะมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่อีก
นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ยอมรับว่า การประชุม ศบค.ในวันนี้จะมีการผ่อนคลายมาตรการอย่างแน่นอน แต่ย้ำว่า เราต้องเคร่งครัดในเรื่องมาตรการ โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะเมื่อเข้าช่วงฤดูหนาวเชื้อไวรัสโควิด -19 จะเจริญเติบโตได้ดี ถึงแม้การฉีดวัคซีนจะสามารถช่วยป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี แต่หากมองจากประเทศในฝั่งยุโรป ที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรได้กว่าร้อยละ 70 แต่ก็กลับมีการแพร่ระบาดในระลอกใหม่เพราะไม่สวมหน้ากากอนามัย และไม่รักษาระยะห่าง จึงได้เตือนประชาชนในประเทศไทยแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว รู้สึกสบายใจ ก็เริ่มออกมาลั้นลา
ดังนั้น จึงจะต้องมีการปรับทัศนคติในเรื่องเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นตัวเลขการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น อย่างเช่นสถิติวันนี้ที่เริ่มมีแนวโน้มดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ และส่วนตัวก็เชื่อเช่นนั้นว่าตัวเลขการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน แต่อาจไม่มากนัก แต่จะทำให้เกิดปัญหาในการเปิดประเทศ
นพ.อุดม ยังขอให้ประชาชนช่วยกันฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้า 50 ล้านคนหรือร้อยละ 70 ของประชากร ซึ่งขณะนี้เหลืออีกเพียง 3 ล้าน จะถึงเป้าหมาย โดยในเดือนธ.ค.เราจะสามารถฉีดเข็ม 2 ครบ และย้ำว่า วัคซีนมีปริมาณที่เพียงพออย่างแน่นอน จึงขอให้ช่วยกันกระตุ้นให้ประชาชน มาฉีดวัคซีน ซึ่งอย่างน้อยจะไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรง
พร้อมกันนี้ ยังระบุว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือน ว่าจะมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ และพบว่า ประเทศที่ได้รับวัคซีน Astrazeneca มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงน้อยกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ชัดเจน ขณะนี้ฉีดอะไรได้ก็ขอให้ฉีดไปก่อน เพราะถือเป็นการช่วยประเทศ ให้ระบบสาธารณสุขไม่รับภาระมากเกินไป และไม่มีปัญหาเรื่องเตียงไม่พอ เพราะเกรงว่าประชาชนจะไม่ได้ฉลองปีใหม่ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มดีดตัวเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งไม่อยากให้เกิดสถานการณ์เช่นเดียวกับในประเทศฝั่งยุโรป มองว่าจะต้องผ่อนคลายมาตรการแบบพอเหมาะสม เพราะไม่อยากให้กลับมาล็อกดาวน์อีก
“หมออุดม”ย้ำต้องพร้อมก่อนเปิดสถานบันเทิง หวั่นเปิดเร็วอาจไม่ได้ฉลองปีใหม่ ยังไม่ต้องกังวล การกลายพันธุ์ไวรัสโควิดในแอฟริกา
นอกจากนี้ นพ.อุดม คชินทร ยังกล่าวถึงแนวโน้มการเปิดสถานบันเทิงผับบาร์ เร็วกว่ากำหนดเดิม ว่าครั้งที่แล้วก็ลงมติไปแล้วว่าให้เปิดวันที่ 16 มกราคม 2565 ไม่ใช่ว่าไม่ให้เปิด แต่ให้ผู้ประกอบการไปเตรียมการให้พร้อมในเรื่องของมาตรการ สิ่งที่กังวลคือการถ่ายเทอากาศ เพราะอย่างไรก็รู้อยู่แล้วว่าจำกัดคนไม่ได้ แต่ให้จำกัดคนร้อยละ 50 หรือ ร้อยละ 75 คงเป็นไปไม่ได้ และเมื่อดื่มเหล้า ก็คุยเสียงดัง ละอองน้ำลายก็พ่นใส่กัน เอาเชื้อออกมา และที่สำคัญเป็นการอยู่ยาว 4-5 ชั่วโมง คงไม่มีใครดื่มแค่ครึ่งชั่วโมงแล้วออก ไม่มีทาง ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสุด และก็มีตัวอย่าง 2 คลัสเตอร์ ใหญ่มาแล้วเกี่ยวกับสถานบันเทิง เพราะฉะนั้นอย่าให้มาเกิดอีก พร้อมย้ำว่า ไม่ได้ไม่ให้เปิด แต่ต้องเตรียมพร้อมทุกอย่าง ต้องช่วยประเทศด้วย ซึ่งก็เข้าใจคนเดือดร้อน รัฐบาลต้องไปเยียวยา ที่จะช้าออกไปอีกเดือนกว่าๆเพราะหากมาเปิดก่อน คิดว่าปีใหม่คงไม่ได้ฉลองกัน
ส่วนบุคลากรทางการแพทย์จะเพียงพอ หากเกิดการระบาดรอบใหม่หรือไม่ นพ.อุดม ย้ำว่า เรามีบทเรียน และเราเรียนรู้มาหลายรอบ คิดว่าเราสามารถรองรับได้แน่นอน เพียงแต่ว่าทำไมเราจะต้องไปเหนื่อยอีก ซึ่งขณะนี้ตัวเลขไม่เกิน 5,000 คน ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ แต่ไม่ได้เหนื่อยมาก หากขึ้นไปถึง 10,000 คนก็จะเหนื่อยมาก และเราก็ไม่อยากไปถึง 20,000 คน อยู่แล้วเพราะเตียงไม่พอแน่นอน เราจึงไม่อยากให้เกิดภาพเหล่านั้น ดังนั้นทุกคนต้องดูแลตัวเอง พร้อมย้ำว่าเรื่องระบบสาธารณสุขเราไม่ได้กังวล ครั้งที่แล้วเราก็เบ่งขยายได้แต่เราเหนื่อย และบุคลากรทางการแพทย์ก็เหนื่อยมาก จึงต้องยอมรับว่า ต่อไปจนถึงกลางปีหน้า คุณจะต้องอยู่กับโควิด -19 แต่เราอยากให้ได้ วันละ 1,000-2,000 คน ตายวันละไม่เกิน 20 คน ก็จะไม่เหนื่อยและรับได้ เป็นสิ่งที่ทั่วโลกตั้งเป้าไว้
ส่วนความกังวลเรื่องการกลายพันธุ์ไวรัสโควิดในแอฟริกา ที่กลายพันธุ์มากกว่าเดลต้าเท่าตัวนั้น นพ.อุดม ระบุว่า เมืองไทยยังไม่ต้องกังวล เพราะเชื้อยังไม่เข้ามา แต่ ตอนนี้ขอให้ระมัดระวังเชื้อของบ้านเราให้ดีเสียก่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
