อารมณ์ดียิ้มกริ่มยอมยืนตอบคำถามนักข่าวทำเนียบฯ แบบเก็บความดีใจไว้คนเดียวไม่อยู่กับผลงาน “หัวหน้าป้อม”ที่มี “ผู้กองนัส”เป็นลมใต้ปีก หลุดปากทวงถาม“นักข่าว”ไม่เห็นชมเลยว่า “พรรคพลังประชารัฐ”(พปชร.)ได้ชัยชนะสนามเล็กกวาดที่นั่งเลือกตั้ง อบต.มาได้ถึง 4,500 เก้าอี้
พร้อมขอบคุณประชาชนที่เลือกผู้สมัครที่พรรคพปชร.สนับสนุน แต่ก็รีบปัดทันทีที่นักข่าวถามถึงการลงพื้นที่ถี่ยิบเป็นส่วนช่วยท่ามกลางเสียงติงปมข้อห้ามพรรคการเมืองสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่น จนทำให้ก่อนหน้านี้พรรค พปชร.สมัย “รัฐมนตรีแฮ้งค์”อนุชา นั่งเลขาพรรคปี63ก็เคยมีมติยืนยันพปชร.ไม่ส่งชิงชัยเพราะเกรงขัดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562ตามมาตรา 34
ที่แม้กฎหมายจะให้พรรคมีการส่งผู้สมัครได้แต่ก็ห้าม ไม่ให้ ข้าราชการการเมือง ส.ส. สว. ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐกระทำการใดๆ โดยมิชอบ ด้วยหน้าที่และอำนาจอันเป็นการกลั่นแกล้งผู้สมัครใด หรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด และ มาตรา 69ที่ห้ามไม่ให้ “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ที่หมายรวมถึง ส.ส.และรัฐมนตรีใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่และอำนาจ ที่มีการกำหนดโทษจำคุกปรับเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี ที่ส่ง ผลให้บรรดาพรรคใหญ่พากันเว้นวรรคออกตัวว่าไม่ส่งผู้สมัคร
เรียกว่าเป็นอีกช็อตที่แม้ “หัวหน้าป้อม”เผลอหลุด “เคลมผลงาน” อารามเพราะความดีใจที่ผลงานเข้าเป้า แบบที่เป็น “ใบเสร็จ”เบิกทางฉายภาพความเป็นไปได้ ในการคว้าชัยใน “สนามเลือกตั้งใหญ่ส.ส.”ที่เมื่อวาน(29พ.ย.)เพิ่งคุยว่า จะกวาดที่นั่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกล้าประกาศว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พปชร.จะได้ที่นั่งส.ส.กรุงเทพฯเพิ่มจาก12เป็น24ที่นั่ง ว่า “ไม่ได้โม้” แต่ภาพการเมืองโดยนัยก็สัมพันธ์ไป ภาพการเพิ่มพาวเวอร์เสริมปีกให้กับทีมงานที่ร่วมเดินสายอย่าง“ผู้กองนัส-อ.แหม่ม”กับบทบาทใน พปชร.ให้กล้าแข็งยิ่งขึ้น ดังการตั้งให้ “ผู้กองนัส”คุม 8 จ.ภาคเหนือ ของ พปชร.โดยนั่ง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือพปชร.โดยประเดิม การประสานกับ “ผช.รมต.”ลุยพื้นที่ช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านที่เดือดร้อนจากคดีที่ทำกินที่จ.น่านเมื่อวาน
ในขณะที่หันมาดูฝั่ง “นายกฯลุงตู่”ที่หลังซาเรื่อง “2ป.แยกวงไปตั้งพรรค”หันกลับมาลุย “หน้างาน”เปิดประเทศแก้เศรษฐกิจหลังโควิดยอมเสี่ยงนำเข้าฝรั่งและเริ่มคลายล็อก แต่เหมือนบรรยากาศจะ“ไม่เป็นใจ”ทุกอย่าง รวมถึงล่าสุดที่“โอไมครอน”โควิดกลายพันธุ์อันตราย ปรากฏบนโลก ทำให้ที่คาดหวังว่าจะ “วัดดวง”เปิดประเทศได้เงินจากฝรั่งเที่ยวไทย ปั่นแต้มคืนเรตติ้งที่โพลทุกสำนักชี้ว่า “ขาลง” เหมือนจะยากขึ้นไปอีกในจังหวะนี้ ที่อารมณ์ไม่ต่างไปจากกลุ่มก๊วน “กองหนุนลุงตู่” อย่าง “กลุ่มสามมิตร”ของ “สุริยะ-สมศักดิ์”ที่เมื่อวานซืนจู่ๆก็มี “ข่าวปล่อย”ว่าจะ “กลับบ้านเก่า” ย้ายไป พรรคเพื่อไทย จนทั้งนายกฯลุงตู่ ทั้ง โฆษกรัฐบาลต้อง ออกมาแก้ข่าวให้ไม่แต่สมาชิกในกลุ่ม รวมถึง “สมศักดิ์”ที่ออกมาพูดถีงการออกจาก“อุโมงค์ แห่งความมืด”และเวลาที่เหลือของรัฐบาล โดยพูดถึง “คนไม่มีโอกาสได้ทำงานในส่วนของรัฐบาล”และเกมปล่อยข่าว “กลุ่มสามมิตร”จะย้ายพรรค ที่มีสื่อบางฉบับเป็นต้นทาง ที่บอกว่ารู้กันหมดว่าใครอยู่เบื้องหลัง ที่ไม่ควรทำลายกันไม่ใช่เวลาคุยเรื่องการเมืองรัฐบาลมีเวลา อีก 1 ปี 6 เดือน
เรียกว่า โดยรวมดูทรงจากชัยชนะใน“ศึกสนามเล็ก อบต.”ที่กวาดมาได้ 4,500ที่นั่ง ทำให้ราศีจับ ที่ทีม“หัวหน้าป้อม”ที่ประกอบด้วย ธรรมนัส-นฤมล-วิชญ์เพิ่มขึ้น กับ ความชอบธรรม ในบริบทถัดไปทางการเมืองภายในพรรค พปชร.ที่แม้วันนี้ ร่องรอยแตกร้าวยังส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลในสภาฯจนกว่าจะมี “ปาร์ตี้กระชับมิตรพรรคร่วมรัฐบาล”ที่มีการเลื่อนไปอีกเป็นครั้งที่2 แบบไม่มีกำหนด จากที่นัดวันศุกร์นี้ 3ธ.ค.ที่เลื่อนมาจาก 26 พ.ย.แล้วรอบหนึ่ง โดยหนนี้ “หัวหน้าป้อม”อ้างว่า เพราะ“โอไมครอน”ไม่มีเรื่องอื่น รอให้โควิดหายดีค่อยกระชับมิตร และไม่ยอมบอกว่า จะมีพิธีกรรม “ประกาศสัตยาบัน พรรคร่วมฯ” หนุน “บิ๊กตู่”เป็นนายกฯโดยบอกว่า ต้องหนุน อยู่แล้ว แต่ก็ต้องถาม พรรคร่วมฯก่อน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news