ธรรมศาสตร์ฯ พ่าย แบล็คเพิร์ลฯ 1-2ฟุตซอลไทยลีก
ธรรมศาสตร์ฯ เสียสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 4 เกมหลังโดน แบล็คเพิร์ลฯ เฉือน 1-2 ด้าน การท่าเรือฯ เครื่องร้อนช้าอัด เกษมบัณฑิต 5-2 ขยับรั้งรองจ่าฝูง
ฟุตซอลไทยลีก2021/2022 แมตซ์เดย์13 ส่งท้ายเลกแรก ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก “นักรบโจรสลัด”แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่มี 21 แต้มจาก 12 นัด ลงสนามพบ “ม้าศึกลูกแม่โดม”ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน ทีมอันดับ 6 ที่มี 17 แต้มจาก 12 นัด และไม่แพ้ใครมา 4 เกมรวด
จูรานดีร์ กุนซือ แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ไม่มี จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ดาวเตะทีมชาติไทยที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ยังมีทีเด็ดขาก ฟาบริซิโอ และ เนเน่ นำทัพ ด้าน นคร ชูสอนสาย กุนซือ ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน ไม่มี ติอาโก้ กูเวญ่า ที่บาดเจ็บ และ โตต้า ติดโทษแบน ยังมี เชาว์วลา ศรีอาวุธ นำทัพ
ครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 ส่วนครึ่งหลัง แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด มาได้ 2 ประตูนำจาก ฟาบริซิโอ น.24 และ ธนวัฒน์ เกิดบางระจัน น.35 ส่วน ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน มาได้ปะตูตีไข่แตก 1-2 จาก ไตรรงค์ เพ็ชรเทียม น.36 จบเกม แบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ชนะ ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน 2-1 ได้รับเงินอัดฉีดพิเศษ 100,000 บาท จาก “บอสแป๋ม”เกษสุดา เป็งเรือน ประธานสโมสรฯส่งท้ายเลกแรก รวมอัดฉีดนักเตะรับทรัพย์ไป 8 แสนบาท
อีกคู่ “สิงห์คลองเตย” การท่ารือ ก่อนลงสนาอยู่อันดับ 3 มี 22 แต้ม จาก 10 เกม พบ “โต๊ะเล็กร่มเกล้า” เกษมบัณฑิต เอฟซี อันดับ 9 มี 15แต้ม เริ่มเกมมา น.4 เกษมบัณฑิต ขึ้นนำเร็ว 1-0 จังหวะเกมสวนกลับ วัชรินทร์ นมัสการ ยิงไปติดเซฟ คณิศร ภู่พันธ์ แต่บอลมาเข้าทาง สุดเขตต์ พรมด้วง ซ้ำเข้าไป จากนั้นเป็น การท่าเรือ ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนักและมาได้ประตูตีเสมอช่วงท้ายครึ่งหลัง น.17 จากบอลทะลุของ ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง ให้ อิทธิชา ประพาพันธ์ ชาร์จเข้าไป 1-1
ครึ่งหลัง”สิงห์คลองเตย”เปิดฉากลุยต่อและมายิงรวดเดียว 4 ประตู จาก โรมวลโด้ 2-1 น.25 ,เจษฎา ชูเดช 3-1 น.29 ,วิษณุ มีมากบาง 4-1 น.32 หลังจากนั้น เกษมบัณฑิต เล่นพาวเวอร์เพลย์ไล่มาเป็น 2-4 จาก นฤชา แสงทอง น.38 แต่นาทีสุดท้ายเป็นการท่าเรือ มาบวกเพิ่มอีกลูกเป็นประตูปิดท้าย 5-2 จาก พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ทำให้จบเกม การท่าเรือ ขยับรั้งรองจ่าฝูง มี 25 แต้ม จาก 11 เกม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news