ศุภชัย เชื่อสมาธิคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทีมไปถึงแชมป์

ช้างศึกลงทำการฝึกซ้อมครั้งแรก ท่ามกลางอุณหภูมิ 27 องศา ที่ประเทศสิงคโปร์ , ศุภชัย เชื่อสมาธิคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทีมไปถึงแชมป์

 

วันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ สนาม ยี่ซุ่น สเตเดียม ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ลงทำการฝึกซ้อมครั้งแรก ท่ามกลางอุณหภูมิ 27 องศา ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565

โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ มีนักเตะทั้งหมด 26 คน โดย ขาดแค่ เจนภพ โพธิ์ขี ที่ติดปัญหาเรื่องเอกสาร, ชนาธิป สรงกระสินธิ์, ธีราทร บุญมาทัน ที่จะเดินทางมาสมทบในวันที่ 6 ธันวาคม และ ฟิลิป โรลเลอร์ ที่จะตามมาสมทบในวันที่ 12 ธันวาคม

สำหรับการฝึกซ้อมใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเน้นไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์ในทีมรวมถึงการลงแท็คติก เกี่ยวกับวิธีการเล่นในศึกชิงแชมป์อาเซียน

ก่อนการฝึกซ้อม ศุภชัย ใจเด็ด กล่าวว่า “การซ้อมวันแรกที่สิงคโปร์ เราได้เน้นเรื่องแท็คติก และการเพิ่มความสัมพันธ์ในทีม เพราะหลายคนยังต้องพยายามปรับจูนเข้าหากันครับ”

“สำหรับผม ความแตกต่างของการเล่นอาเซียน คัพ ครั้งก่อนกับครั้งนี้ ผมมองว่า ครั้งนี้เรามาเล่นสิงคโปร์ ทั้งทัวร์นาเมนต์ เราก็ต้องมีสมาธิให้มากที่สุด”

“ในวัย 23 ปีสำหรับผม ก็ถือเป็นอีกก้าวครับ หากเทียบกับครั้งก่อน ครั้งนี้เราก็ได้ทำความรู้จักกับนักเตะอีกหลายคน เราจะทำให้ดีที่สุด”

“การเป็นกองหน้าที่อายุน้อยที่สุด มันไม่ได้สร้างความกดดันให้ตัวเราเลย เพราะผมเองก็จะพยายามทำเต็มที่ ทุกวินาที และมีสมาธิกับการแข่งขันให้ได้มากที่สุด”

“เป้าหมายของการมาในครั้งนี้ ผมเองก็หวังว่าจะประสบความสำเร็จกับทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ให้ได้ ครับ ก็ขอให้แฟนบอลเป็นกำลังใจให้พวกเรา เราจะทำให้ดีที่สุด และพยายามนำของขวัญปีใหม่ไปให้กับแฟนบอลชาวไทยให้ได้ครับ”

 

สำหรับ โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2020 ของทีมชาติไทย มีดังนี้

 

5 ธันวาคม 2564 เวลา 16.30 น.

ติมอร์-เลสเต พบกับ ไทย

 

11 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น.

ไทย พบกับ เมียนมา

 

14 ธันวาคม 2564 เวลา 16.30 น.

ฟิลิปปินส์ พบกับ ไทย

 

18 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น.

ไทย พบกับ สิงคโปร์

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news