เวียดนาม ไล่ต้อน ลาว 2-0 ประเดิมชัยซูซูกิคัพ
แชมป์เก่า เวียดนาม เอาชนะ สปป.ลาว 2-0 เก็บสามแต้มแรกในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B นัดแรก ที่สนามบินชาน สเตเดียม, สิงคโปร์ ทีมชาติ สปป.ลาว ลงสนามพบกับ ทีมชาติเวียดนาม แชมป์เก่า
สปป.ลาว ภายใต้การคุมทีมของ วี เซลวาลาซ กุนซือชาวสิงคโปร์ ตั้งเป้าผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ให้ได้ในปีนี้ ประเดิมนัดแรกด้วยการส่งนักเตะที่ค้าแข้งในประเทศไทยลงตัวจริงนำโดย สุขพร วงศ์เชียงคำ, มิดสะดา สายไทฟ้า, พุดทะไซ โคจะเลิน นอกจากนั้นยังมี บิลลี เกตุแก้วพรหมพร กองหน้าที่ค้าแข้งในลีกเดอซ์ ฝรั่งเศส และ บุญพระจันทร์ บุนกอง กองหน้าดาวรุ่งฝีเท้าดีจากทีม U23
ขณะที่ ทัพดาวทอง ของ ปาร์ค ฮัง ซอ ดีกรีแชมป์เก่าเมื่อครั้งที่แล้ว ตัดสินใจพัก เหงียน กวง ไฮ เป็นแค่ตัวสำรอง เกมรุกนำโดย เหงียน เทียน ลินห์ และ เหงียน คอง เฟือง
ผลปรากฏว่า เริ่มเกม นาทีที่ 8 สุขพร วงศ์เชียงคำ กองหน้า สปป.ลาว โดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมนี้อย่างรวดเร็ว หลังไปอัดใส่ทาง ฟาน วัน ดึ๊ก ค่อนข้างรุนแรงบริเวณกลางสนาม
นาทีที่ 27 เวียดนาม มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานของ 2 นักเตะฮองอันห์ ยาลาย เมื่อ เหงียน ฟอง ฮง ซวี ได้บอลหลุดขึ้นมาทางซ้ายในเขตโทษ ก่อนจะปาดบอลไปให้กับ เหงียน คอง เฟือง ได้ยิงจ่อๆ ส่งบอลเข้าประตูไปไม่เหลือซาก
หลังจากนั้นเกมเป็นของเวียดนามอย่างชัดเจน และมีโอกาสพาบอลขึ้นไปเจาะทำประตูอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังเบิกสกอร์ที่ 2 ไม่ได้ ก่อนจะจบครึ่งแรก เวียดนาม ยังคงขึ้นนำ สปป.ลาว อยู่ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่55 เวียดนาม มาได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โฮ เติ๊น ต่าย เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาโค้งๆ เข้าไปในเขตโทษ บอลเลยมาถึงแถวสองและเป็น ฟาน วัน ดึ๊ก ที่โฉบขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม ก่อนจบเกม แชมป์เก่าเวียดนาม เอาชนะ สปป.ลาว 2-0 ประเดิมเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ
โดยโปรแกรมต่อไป จะเป็นเกมนัดที่ 2 ของกลุ่ม บี ซึ่ง สปป.ลาว จะลงสนามพบกับ มาเลเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 9 ธ.ค.64 เวลาไทย 16.30 น. ส่วนเวียดนาม จะได้พัก 5 วันเต็ม และลงเตะอีกทีในวันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค.64 พบกับ มาเลเซีย เวลาไทย 19.30 น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news