ประท้วงเป็นผล! ‘ภาสวิชญ์’คว้าชัยซูเปอร์สปอร์ต เรซ
การประท้วงเป็นผลสนามช้างฯ แถลงการณ์ยืนยัน ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ คว้าชัย ซูเปอร์สปอร์ต เรซปิดฤดูกาล โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2021 ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายใต้การลุ้นแชมป์ประจำที่เข้มข้น โดยเฉพาะในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวชิงความเป็นหนึ่งระหว่างทีมยักษ์ใหญ่อย่าง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” และ “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม”
โดยชัยชนะในสนามที่ 4 เรซที่ 2 นี้ตกเป็นของ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 3 ก่อนจะทะยานขึ้นนำได้ในรอบแรก และบิดนำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 19 นาที 54.916 วินาที แต่หลังจบเรซฝ่ายตรวจสภาพปรับผลการแข่งขันให้ “ดิสควอลิฟาย” รถแข่งหมายเลข 123 ของ ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์
อย่างไรก็ดี ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ยื่นหลักฐานประท้วง “ผลการตรวจสภาพ” ตามสิทธิของทีมแข่งและพบว่ารถแข่งหมายเลข 123 ของ ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ไม่ได้ทำผิดกฎดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้มีการประกาศผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการอีกครั้งด้วยชัยชนะของ ภาสวิชญ์
บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ฝ่ายจัดการแข่งขัน โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวโดยมีใจความว่า
“บริษัท บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ผู้จัดการแข่งขันรายการ “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ขอประกาศยืนยันผลอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี สนามที่ 4 เรซที่ 2 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยอันดับ 1 ยังคงเป็นของ ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นักแข่งหมายเลข 123 จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ตามเดิม หลังจากมีการประท้วงการตรวจสภาพรถและทางฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ยื่นหลักฐานที่ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎการแข่งขันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ในฐานะฝ่ายจัดการแข่งขันได้ยืนยันคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยต้องขออภัยไปยัง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และต้นสังกัด ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ กับความผิดพลาดดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news