Home
|
อาชญากรรม

ผสห.ไม่เชื่อหนุ่มคลั่งทุบรถป่วยจิต

Featured Image
ผู้เสียหายไม่เชื่อหนุ่มคลั่งทุบรถนับ10คัน มีอาการทางจิต – ด้านพี่ชาย เตรียมพาพบแพทย์หลังนั่งหัวเราะคนเดียวนานกว่า2ปี

 

ความคืบหน้าเหตุหนุ่มคลั่งทุบรถประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน ภายในซอยวัดเวฬุวนาราม 19 บริเวณหมู่บ้านบูรพา18 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (14ธ.ค.)ก่อนถูกชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวไว้และแจ้งตำรวจ สน.ดอนเมือง รับตัวไปดำเนินคดี

 

นายรัชกร กลิ่นประทุม 1 ในผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวานขณะที่ตนเองอยู่ภายในบ้านพักได้ยินเสียงดังคล้ายรถเก็บขยะแต่ปรากฎว่าเมื่อออกมาดูพบว่ารถที่จอดหน้าบ้านได้รับเสียหายกระจกหลังแตกกระจาย เนื่องจากมีชายคลุ้มคลั่งไล่ทุบรถที่จอดอยู่ภายในซอยกว่า 10 คัน โดยมีพฤติกรรมลักษณะนำวัตถุที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น เช่น กระถางต้นไม้ อิฐบล็อก รวมทั้งมีดที่พกติดตัวมาจากบ้านไล่ทุบรถเสียหาย ทำให้เป็นที่หวาดผวากับคนที่อยู่ในซอยอย่างมาก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากผู้ก่อเหตุมีอาการผิดปกติทางจิตทำไมถึงไม่ทุบรถญาติพี่น้องของตัวเองที่จอดอยู่ด้วย

 

จึงเชื่อว่าขณะก่อเหตุน่าจะมีสติดี แต่ก่อนหน้านี้ทราบว่ามีปากเสียงทะเลาะกันกับคนในบ้าน ส่วนค่าเสียหายทราบว่าบางรายได้รับการเจรจากับครอบครัวผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนตนเองได้นัดหมายเจรจาในช่วงเย็นวันนี้ แต่ทราบมาว่าครอบครัวผู้ก่อเหตุไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ ส่วนการดำเนินคดีให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

 

ด้าน นายวิทยา ลักขษร อายุ 31 ปี พี่ชายของนายสิทธิศักดิ์ ลักขษร อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุ เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้น้องไล่ทุบทำลายรถของชาวบ้าน เนื่องจากมีปากเสียงกับตนเองที่ไม่ยอมให้ยืมโทรศัพท์ไปฟังเพลงเพราะทราบดีกว่าน้องชายมักจะชอบทำลายโทรศัพท์ อีกทั้งตนเองกำลังจะกล่อมลูกนอนเกรงว่าจะทำให้ลูกนอนไม่หลับจึงไม่ได้ให้ยืม

 

จึงเชื่อว่าเป็นชนวนสร้างความโกรธให้กับน้องชายจนไปก่อเหตุในครั้งนี้ พร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีปากเสียงมาก่อน เนื่องจากน้องชายจะมีอาการเครียดบางครั้งก็หัวเราะและยิ้มคนเดียว ซึ่งอาการนี้เป็นมานานกว่า 2 ปี เคยจะพาไปหาหมอแต่น้องชายปฏิเสธ และที่ผ่านมาไม่ได้ก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้เสียหายทั้งหมด แต่ส่วนตัวยอมรับว่ายังไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหายได้ทั้งหมดในตอนนี้

 

ส่วนการดำเนินคดีให้เป็นหน้าที่ตำรวจ แต่ยอมรับว่าสงสารน้องชาย หลังจากนี้หากกระบวนการยุติธรรมเสร็จสิ้นก็จะพาน้องไปรักษา เพราะหากไม่ไปรักษาอาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกว่านี้ก็ได้

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับนายสิทธิศักดิ์ ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่ สน.ดอนเมือง โดยมารดาได้ไปนำอาหารไปเยี่ยม ส่วนทางคดีตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งส่งผู้ต้องหาไปตรวจว่ามีอาการป่วยจิตเวชหรือไม่ ก่อนพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube