กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมทดสอบระบบออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form RCEP 16 ธ.ค.นี้ ก่อนมีผลบังคับใช้ทางการ 1 ม.ค.ปีหน้า
นายชุตินันท์ สิริยานนท์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการระหว่างประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ โดยกรมการค้าต่างประเทศซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form RCEP) และกำกับดูแลการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาต (Self-Certification by approved exporter) ได้เตรียมระบบต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออกสินค้าไว้พร้อมแล้ว
โดยการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลง RCEP กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำระบบที่เกี่ยวข้องไว้ 3 ระบบ ได้แก่ ระบบออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form RCEP) ที่อยู่ระหว่างการเปิดระบบเพื่อทดสอบและรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการที่ได้ลองใช้งานเสมือนจริงแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ จะเปิดระบบเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอ Form RCEP ได้จริง ในวันที่ 1 มกราคม 2565 โดยผู้ประกอบการสามารถขอรับ Form RCEP ได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ระบบการตรวจสอบคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดของสินค้า หรือ ROVERs และ ระบบการขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาต (Self-Certification) ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นขอตรวจต้นทุนของสินค้าส่งออกและยื่นคำขอขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตผ่านทั้ง 2 ระบบดังกล่าวได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับระบบออกหนังสือรับรอง Form RCEP กรมฯ ได้นำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เช่น การใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (ESS) และการพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 รูปแบบพิเศษที่สามารถป้องกันการปลอมแปลงโดยมี QR Code เพื่อยืนยันความถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งช่วยลดขั้นตอน และระยะเวลาในการรับบริการ รวมทั้งช่วยลดการตรวจสอบย้อนกลับจากศุลกากรปลายทาง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี
สำหรับระบบการตรวจสอบคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดของสินค้า หรือ ROVERs ผู้ประกอบการต้องดำเนินการยื่นคำขอตรวจต้นทุนผ่านระบบและแนบเอกสารหลักฐานตามการดำเนินการยื่นคำขอตรวจต้นทุนตามปกติ โดยหากเป็นการส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม จีน และญี่ปุ่น ผู้ส่งออกจำเป็นต้องตรวจสอบรายการสินค้าจากประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ว่าเป็นรายการสินค้าตามภาคผนวก จ ที่จะต้องมีเงื่อนไขในการตรวจต้นทุนเพิ่มเติมหรือไม่ประกอบด้วย
สำหรับระบบการขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาต (Self-Certification) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การขึ้นทะเบียนและการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ขึ้นทะเบียนว่าต้องเคยใช้การรับรองตนเองของอาเซียน (AWSC Self-Certification) หรือมีประสบการณ์ในการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าในการส่งออกไปยังประเทศสมาชิก RCEP ประเทศใดประเทศหนึ่งมาแล้ว และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จะมีอายุทะเบียน 2 ปี โดยผู้ส่งออกสามารถยื่นคำขอผ่านเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือ http://self-cert.dft.go.th/self-cert/home/login2.aspx ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป โดยผู้ส่งออกที่ได้รับการอนุมัติเป็นผู้ส่งออกที่รับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองภายใต้ความตกลง RCEP จะสามารถใช้สิทธิดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news