ศบค.ยืนยันไทยป่วยโอมิครอนแล้ว 14 ราย รอกรมวิทย์ฯแจงเคสต้องสงสัยเพิ่ม ย้ำดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร สถานประกอบการได้ในวันปีใหม่เท่านั้น
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. มีการติดตามสถานการณ์โควิดในประเทศเพื่อนบ้านคือ ประเทศอินโดนีเซีย มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายแรกในประเทศ คือเป็นพนักงานทำความสะอาด และไม่เคยมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศเช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย ที่มีการพยาบาลผู้ป่วยโอมิครอนเป็นรายที่สองในประเทศ
ส่วนประเทศไทย มีการยืนยันการติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 14 รายในประเทศไทย
โดยส่วนใหญ่เข้ามาในโครงการ Test and Go ซึ่งปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พยายามตรวจคัดกรองเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์โอมิครอนอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้มีเคสที่ต้องยืนยันซ้ำเป็นเคสต้องสงสัย ซึ่งต้องรอทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานเร็วๆนี้ซึ่ง ผอ.ศปก.ศบค.ได้เน้นย้ำว่า ผอ.ศบค.ได้ฝากให้กระทรวงสาธารณสุขโดยคณะกรรมการ EOC พิจารณาเรื่องการใช้ ATK ตรวจด้วยตัวเอง เป็นการยกระดับมาตรฐานการจัดงานต่างๆเช่น การจัดงานปีใหม่
การระบาดที่รายงานเพิ่มขึ้นมีแคมป์คนงานกทม.
ซึ่งแคมป์คนงานมีการรายงานพบ 56 รายจากคนงานทั้งหมด 120 ราย ซึ่งกทม.รายงานว่าตัวเลขนี้คิดเป็น 47%ของทั้งแคมป์ ซึ่งตรวจพบจากการสุ่มตรวจ ATK ทุก 1 สัปดาห์ นอกจากนี้กทม.มีการรายงานพบคลัสเตอร์ร้านหมูกระทะที่เขตบางกะปิพบ 12 ราย
ทั้งนี้แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดอุดรธานีมีการจับการปลอมแปลงเอกสารวัคซีนไปแล้ว ต้องขอบคุณสปม.และต้องย้ำกับประชาชนอย่างเพราะการกระทำขอเอกสารวัคซีนปลอมถึงว่ามีความผิด ซึ่งจากการประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 40 ในวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขอเน้นย้ำการอนุญาตให้ดื่มหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารหรือสถานประกอบการได้เฉพาะสำหรับเทศกาลปีใหม่วันที่ 31 ธ.ค.นี้เท่านั้น โดยเน้นย้ำว่า 16 ธ.ค.นี้สถานบริการผับ บาร์ ที่เปิดให้บริการจำหน่ายแอลกอฮอล์ยังถือได้ว่ามีความผิดยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งมีการรายงานเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกระบี่ อำเภออ่าวนาง และไร่เลย์แม้ว่าจะเป็นสถานประกอบการที่ได้รับ SHA หรือ SHA+ยังไม่อนุญาตรวมถึงการกระทำผิด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท.สามารถเพิกถอนตราสัญลักษณ์ SHA หรือ SHA+ ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews