ลาทีศก.โคขวิดสู่ฝันปีเสือติดปีก
ปี 2564 เป็นอีกหนึ่งปีที่เศรษฐกิจไทยบอบ้ำชจากโควิด-19 นั่นเพราะเจอทั้ง ปิดประเทศ ล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว จำกัดการเดินทาง หรือแม้กระทั่งการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดห้าง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนและเงินในกระเป๋า และความเสียหายของธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยซึ่งเป็นตัวเแทนของความแกร่งและความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจ ก็ค่อนข้างที่จะเปราะบาง อันเนื่องมาจากความกังวลต่อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
ในมุมมองประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย “นายไพบูลย์ นลินทรางกูร” เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2564 ว่า เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยเติบโตน่าผิดหวัง โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวไม่ถึง 1% สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่โต 5% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวที่หายไป
(ปล่อยเสียง ไพบูลย์-1) “ก็เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยถือว่าแทบจะไม่โต ผมเชื่อทั้งปี ปีนี้น่าจะเติบโตไม่ถึง 1% ขณะที่เฉลี่ยเศรษฐกิจโลกน่าจะโตราวๆ 5% ก็แสดงว่าปีนี้ เป็นปีที่เรามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะด้อยกว่าอีกหลายๆ ประเทศ เหตุผลหลักก็เพราะว่าประเทศไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว และก็รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติก็มีสัดส่วนค่อนข้างสูงในระบบเศรษฐกิจ พอท่องเที่ยวยังเปิดไม่ได้และเราพึ่งการท่องเที่ยวเยอะ ก็ทำให้เศรษฐกิจเราถูกผลกระทบค่อนข้างหนักเมื่อเทียบอีกหลายๆ ประเทศ”
และเมื่อถามถึงภาพรวมตลาดหุ้นปี 2564 ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย บอกว่า ให้ผลตอบแทนดี เพราะทุกคนเห็นการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีความคืบหน้า ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็จะขยายตัวได้ นั่นเพราะไทยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
“ปีนี้ผลตอบแทนก็ถือว่าของเราดี อาจจะต่ำกว่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นโลกคือค่าเฉลี่ยปีนี้ ตลาดหุ้นโลกน่าจะปรับขึ้นประมาณ 15-16% ของเราตอนนี้ก็ขึ้นมา 12-13% ก็ถือว่าใช้ได้ ก็ถือว่าอาจต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยเท่านั้นเอง ก็เป็นการปรับขึ้นมาเพื่อรอผลของปีหน้า (2565) คือตลาดหุ้นเป็นอะไรที่จะมองไปล่วงหน้า และตอนนี้เราก็ฉีดวัคซีนค่อนข้างดี และก็มีการเปิดประเทศทุกคนก็หวังว่าปีหน้าน่าจะได้เห็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับคืนมา อันนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นในปีนี้ ปรับขึ้นมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะถ้าเทียบกับตลาดหุ้นในเอเชียด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็ยังปรับขึ้นน้อยกว่าเรา และถ้าในอีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ตลาดเกิดใหม่ด้วยกันก็ค่อนข้างน้อยกว่าเรา ดังนั้นปีนี้ถ้าเทียบกับเอเชีย กับตลาดเกิดใหม่ก็ถือว่าตลาดหุ้นไทยโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี ก็เป็นการขึ้นมาเพราะความคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้าจากการท่องเที่ยวฟื้นกลับมา”
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไตรมาส 1 และ ปี 2565 คาดการร์เปิดประเทศและกิจกรรมเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวจะผลักดันให้ภาคธุรกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตต่อเนื่อง ให้เป้า SET Index ณ สิ้นปี 2565 ที่ 1,780 -1,800 จุด ส่วนปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นแรงหรือให้ผลตอบแทนเป็นบวกจากการลงทุนในเดือน ม.ค. หรือ January effect หากอิงสถิติย้อนหลัง 10 ปี พบว่าตลาดหุ้นไทยในเดือน ม.ค. ให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 8 ปี และมีเพียง 2 ปีเท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบหรือคิดเป็นความน่าจะเป็นที่จะได้ผลตอบแทนเป็นบวก 80%
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นในปี 2565 อย่างใกล้ชิด เพราะปี 2564 ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตที่น้อยกว่าเศรษฐกิจโลก ซึ่งทุกฝ่ายก็หวังว่าปี 2564 จะเป็นปีที่ต่ำสุดของเศรษฐกิจแล้ว และปี 2565
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews