Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ช้างศึก”ทุบ”อินโดฯ”ได้อีกครั้งชัวร์ๆ ปิดจ็อบรับแชมป์

การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ณ สนาม เดอะ เนชั่นเเนล สเตเดี้ยม ประเทศสิงคโปร์ ประจำวันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 19.30 น. คู่ระหว่าง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย

 

 

โดยเกมนัดแรก “ช้างศึก ถล่มเอาชนะ อินโดนีเซีย มาแบบขาดลอย 4-0 กุมความได้เปรียบก่อน

 

ด้านสถิติการพบกันทั้งหมด 8 ครั้ง “ช้างศึก” ชนะ 6 ครั้ง อินโดนีเซีย ชนะ2ครั้ง เสมอกัน0ครั้ง

 

สภาพทีมก่อนลงทำศึกนัดนี้ “ช้างศึก” จะไม่มี ฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารมือ 1 บาดเจ็บหนัก เช่นเดียวกับ เอเลียส ดอเลาะ เซนเตอร์ร่างโย่ง ที่บาดเจ็บจากเกมนัดที่แล้ว แต่ก็มีข่าวดี เมื่อ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามช่วยทีมได้แล้ว

 

คาดว่า มาโน่ โพลกิ้ง น่าจะมาแบบ “จัดเต็ม” ในนัดส่งท้ายนี้ นั่นหมายความว่า นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สารัช อยู่เย็น เเละ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร จะกลับมาเป็น 11 ตัวจริงอย่างเเน่นอน

 

ด้าน อินโดนีเซีย อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบสุดๆ หากต้องการพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าแชมป์ หลังเกมแรกพ่ายมาแบบเละเทะ 0-4 เกมนี้อย่างน้อยต้องชนะ ทีมชาติไทย 4 ลูกขึ้นไปเพื่อกลับมาเสมอกัน หรือชนะ 5 ลูกขึ้นไปก็ได้แล้วแชมป์ไปเลย

 

อินโดนีเซีย ของ ชิน เเท ยอง กุนซือชาวเกาหลีใต้ มีข่าวดีก่อนเกมเช่นกัน เพราะ ปราตามา อาฮาน เเบ็คซ้ายตัวเก่ง กลับมาลงสนามได้เเล้ว หลังจากโดนแบนไปในนัดก่อน ส่วนขุมกำลังที่เหลือก็พร้อมลุยกันทั้งหมด

 

คาดว่า เเต ยอง จะมาสู้ศึกในระบบ 4-2-3-1 ดังเดิม ซึ่งจะมี เอลคาน เเบ็กก็อตต์, อิวาน ดิมาส เเละ เอกี้ วิกรี้ ออกสตาร์ทตั้งเเต่นาทีแรกเสียที หลังจากเป็นแค่ตัวสำรองในเกมก่อน

 

อย่างไรก็ดี “โค้ชเต่า” อภิรักษ์ ศรีอรุณ กุนซือ “สิงห์ร่มเกล้า”ม.เกษมบัณฑิต เอฟซี ทีมดังจากศึก T3 โซนกรุงเทพฯ ได้ให้ทรรศนะคู่นี้ไว้ดังนี้

 

ทั้งนี้ แฟนบอลชาวไทยอย่าลืมมาร่วมส่งกำลังใจ เพื่อให้ขุนพล “ช้างศึก” คว้าถ้วยแชมป์อาเซียน สมัยที่ 6 มาเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยทั้งประเทศให้ได้

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube