“กรณ์”ช่วย”อรรถวิชช์”หาเสียงตลาดบางเขน-อมรพันธ์
“กรณ์” ลงพื้นที่ตลาดบางเขน-ตลาดอมรพันธ์ ช่วย”อรรถวิชช์”หาเสียง เลือกตั้งซ่อม ประชาชนให้การต้อนรับแน่น พบสินค้ามีราคาสูง สะท้อนประเทศกำลังเผชิญปัญหาปากท้อง
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ลงพื้นที่ตลาดบางเขนและตลาดอมรพันธ์ ช่วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อมที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 30 มกราคมนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพี่น้องประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี และพบว่า สินค้ายังคงมีราคาสูง โดยเฉพาะเนื้อหมู สะท้อนให้เห็นว่า ปีนี้ประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับปัญหาปากท้องและรัฐบาลยังคงมีภาระหน้าที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและดูแลปากท้องพี่น้องประชาชน ส่วนราคาสินค้าที่สูงขึ้นต้องดูว่ามันเป็นปัญหาที่กลไกตลาดหรือการบริหารจัดการ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ควรลงมาดู อย่าให้มีการเอารัดเอาเปรียบประชาชนในช่วงที่เดือดร้อนอยู่แล้ว ก็จะเก็บปัญหาต่างๆเหล่านี้กลับไปคิดแนวทางในการแก้ไขและเสนอต่อผู้มีอำนาจต่อไป
ทั้งนี้ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า แม้ขณะนี้จะเหลือเวลาอีกเพียง 20 กว่าวัน ในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ แต่ส่วนตัวมั่นใจว่า จะนำชัยชนะมาได้ แม้พรรคกล้าจะเป็นพรรคใหม่ และเกณฑ์ในการชี้วัดความสำเร็จครั้งนี้ คือต้องทำให้พี่น้องประชาชนรู้ให้ได้ ว่า การเมืองคุณภาพ การเมืองสร้างสรรค์ มันเกิดได้หรือไม่ในกรุงเทพฯทั้งนี้ ได้ประสาน กกต.ไปแล้วว่า ให้มีการตรวจสอบ ยกตัวอย่างในพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้ มีการใช้เงินเยอะมาก จึงอยากให้ไปดูแล และในการเลือกตั้งซ่อม กกต.น่าจะใช้โอกาสนี้ทำแคมเปญ สร้างค่านิยม ให้ประประชาชน ใครซื้อสิทธิ์ขายเสียงไม่ควรเลือก
ขณะนายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้าส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อมทั้ง 3 เขต หลักสี่ ชุมพรและสงขลา ซึ่งหากวัดกันตัวผู้สมัคร นโยบาย ตนไม่เคยกังวล แต่มีเรื่องเดียวที่ตนกังวลมาก คือการใช้อำนาจเงิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่เท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับว่าในต่างจังหวัด อิทธิพลเรื่องของเงินมหาศาล แล้วอนาคตการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร หากถูกครอบงำด้วยการใช้เงิน และดูเหมือนว่า ไม่สามารถเอาผิดใครได้เลย ซึ่งมันทำให้คนดีเข้ามาทำงานการเมืองยากขึ้นส่วนการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับที่มีข้อเสนอเรื่องเบอร์ผู้สมัคร นายกรณ์ กล่าวว่า สนับสนุนให้พรรคเดียวกันใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ เพราะ ง่ายสำหรับประชาชน ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายจะตัดสินใจอย่างไร ควรยึดหลักประชาชนเป็นที่ตั้ง ขณะเกณฑ์ต้องได้ 2 คะแนนเสียงมากกว่า 70000 คะแนนขึ้นไปถึงจะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อนั้น นายกรณ์ กล่าวว่า กติกาเลือกตั้งที่เปลี่ยนไป เป็นการเปลี่ยนแปลงโดยพรรคใหญ่ ด้วยความเชื่อที่ว่าเขาจะได้เปรียบมากขึ้น
แต่ขณะเดียวกันเราก็มั่นใจว่าพี่น้องประชาชน ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ต้องการเห็นการเมืองมีการพัฒนา ถ้าเรายึดแนวทางนี้และสื่อสารกับประชาชนด้วยความมั่นใจ ผมเชื่อว่าเราจะได้รับการสนับสนุนเพียงพอ ตั้งใจสู้เต็มที่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews