Home
|
ทั่วไป

ศบค.พบโอไมครอนแล้ว 5,397 ราย คิดเป็น 35.17%

Featured Image
ศบค.พบป่วยโควิดโอไมครอนแล้ว 5,397 ราย คิดเป็น 35.17% กระจาย 71 จังหวัด ชี้มีแนวโน้มที่สูงขึ้น

 

แพทย์หญิงสุมณี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรณีรายงานในโซเชียล มีเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีติดโควิด-19จำนวน 3 ราย เมื่อลงไปสอบสวนโรคพบเกี่ยวโยงกับการได้รับเชื้อจากช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่หลังจากมีการประกาศ Work From Home ทำให้พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วย 3 คนที่ติดเชื้อไม่เกิน 5 คน

 

ซึ่งทั้งหมดได้ถูกแยกกักรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นตัวอย่างของหน่วยงานที่ทำตามมาตรการ Work From Home ทำให้ไม่มีการระบาดเพิ่มเติมเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีจำนวนมาก หากมาทำงานเต็มรูปแบบก็จะพบว่าอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่านี้ หรืออาจทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเยอะกว่านี้

 

ด้านยอดการตรวจ ATK รายวันภาคประเทศ 9 ม.ค.65 ตรวจไป 52,329 ราย พบผลบวก 1,262 คน คิดเป็น 1.23% ซึ่งผลบวกมีแนวโน้มทิศทางเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยรายละเอียดข้อมูลการจำแนกตามสายพันธุ์เฝ้าระวังและการกลายพันธุ์ ขณะนี้ผลการซุ่มตรวจกลายพันธุ์ซึ่งเป็นสายพันธุ์โอไมครอนพบแล้ว 5,397 ราย กระจายไปแล้ว 71 จังหวัด พบว่าหากจำแนกการกลายพันธุ์ตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาถึงวันที่ 9 ม.ค. พบว่าสัดส่วนเป็นเชื้อเดลต้าอยู่ที่ 64.71%และเป็นเชื้อโอไมครอน 35.17% ที่เหลือนอกจากนี้จะเป็นสายพันธุ์เบต้าและอัลฟ่าอยู่ที่ร้อยละ.03 และ.1% ตามลำดับ

 

หากพิจารณาเป็นสัปดาห์จำแนกตามเชื้อที่สุ่มตรวจช่วงวันที่ 2-8 ม.ค.พบโอไมครอนถึง 70.3% และเป็นเดลต้า 29.7% โดยสัปดาห์ล่าสุดเชื้อโอไมครอนถึง 91.3% เป็นการสุ่มตรวจที่เจอในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ 412 ราย และ 61% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภท Test And Go, 36% เป็นนักท่องเที่ยวจากระบบ Sand Box และอีก 3% เป็นผู้ที่อยู่ในระบบกักตัว ซึ่งจากการวิเคราะห์จะเห็นว่าผู้ที่เดินทางเข้ามาแม้จะมีจำนวนลดลงแต่จำนวนสัดส่วนการติดเชื้อมีทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน

 

ทั้งนี้จังหวัดที่จะต้องมีความพร้อมอย่างมากในการรองรับผู้ป่วย คือ จังหวัดที่มีการติดเชื้อจำนวนมากใน 10 อันดับแรกและเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่าหลักร้อย คือ ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว โดยในบ่ายนี้จะมีการแถลงข่าวจากกระทรวงสาธารณสุขที่มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเรื่องการจัดการและการรองรับการระบาดจากกรมการแพทย์, กรมควบคุมโรค, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสปสช. ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลในรายละเอียดได้จากการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube