หมูล้มรัฐบาลลุง ของแพงยังไม่แก้ โควิดยังไม่ซา หมูก็มาเป็นโรค
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ในไทยเฉียดวันละ 1 หมื่นคน โดยพบคลัสเตอร์ใหญ่ในหลายจังหวัด มากที่สุดในเวลานี้ คือ จังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา แน่นอนว่าปัจจัยดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเลขนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความหวังที่การท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากช่วงหยุดปีใหม่ก็ดูเหมือนจะริบหรี่ลง
ทางด้านราคาสินค้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะถูกลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่แพงขึ้นในทุกวัน สวนทางกับค่าแรงขั้นต่ำของประชาชน โดยจากข้อมูลล่าสุดราคาหมูขึ้นไปแตะ 250บาทต่อกิโลกรัม แพงสุดในประวัติศาสตร์ จากการเปรียบเทียบราคาหมูกับค่าแรงขั้นต่ำ สรุปได้ว่า ทำงานหนึ่งวันซื้อหมูได้ 1.2 กิโลกรัม
การที่หมูราคาแพงสืบเนื่องมาจากเกิดการระบาดของโรค ASF หรือ อหิวาต์แอฟริกาในหมู ทำให้ต้องกำจัดหมูที่ติดโรค เมื่อหมูมีจำนวนน้อยลง ทำให้ราคาหมูสูงขึ้นเป็นไปตามกลไกของตลาด แต่พอเรื่องนี้แดงออกมา ทางด้านกระทรวงเกษตรฯกับบอกกับสื่อว่าตนไม่ได้รับเอกสารรายงานของเรื่องนี้ ทำให้ทางพรรคเพื่อไทยออกมาถามหาความรับผิดชอบจากการบริหารงานที่ผิดพลาดจนก็ปัญหาให้หับประชาชนส่วนใหญ่
เพื่อไทยได้ทีขย่ม ชี้หมูแพง ไม่หมู ล้มรัฐบาลได้ เตรียมยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา อัดนายกฯ-รมว.เกษตรฯ ไม่สนใจความเดือดร้อนประชาชน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปัญหาราคาหมูแพง ว่า เป็นปัญหาใหญ่หลวงของประเทศชาติ เป็นเรื่องหมูที่ไม่ใช่หมูเพราะสามารถล้มรัฐบาลได้ เนื่องจากรัฐบาลปล่อยปละละเลยจนทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นโรคระบาดสัตว์ นับว่าเป็นเรื่องแปลก เมื่อรัฐบาลพบกับโรคระบาด จะบริหารราชการผิดพลาดและอย่างล้มเหลว ทั้งที่มีประกาศโรคอหิวาต์ในหมูให้เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ เม.ย.2562 แต่กลับปกปิดและไม่ให้ความใส่ใจ ขณะที่พรรคเพื่อไทยพยายามเสนอเรื่องดังกล่าวเป็นญัตติเข้าสู่สภาฯ แต่ก็มีการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ทำให้ต้องงดประชุมสภาฯ กระทั่งเกิดเหตุราคาหมูแพง
ทั้งนี้ มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการปกปิดข้อมูล เพราะต้องชดเชยเยียวยาให้เกษตรกรแต่ไม่มีเงินเยียวยาใช่หรือไม่ หรือปกปิดเพราะต้องการทำลายล้างเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงหมูหรือไม่ เพื่อให้กิจการการเลี้ยงหมูเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้นใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้น จะต้องมีผู้รับผิดชอบ นายกรัฐมนตรีไปอยู่ไหน ถึงไม่สนใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และรัฐมนตรีเกษตรฯไปอยู่ไหน ปล่อยให้กรมปศุสัตว์ออกมา ต้องการอะไร ต้องการช่วยเหลือใคร ถ้าคุณปกป้องผลประโยชน์เพื่อพวกพ้อง พี่น้องประชาชนจะว่าอย่างไร
ดังนั้น ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯทันทีที่สภาฯเปิด ด้วยการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน จากนั้น จะตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย โดย จะนำเข้าสู่สภาฯเป็นญัตติด่วนด้วยวาจาในวันที่ 20 ม.ค.ที่จะถึงนี้ และจะอยู่ในญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ม.152 ที่จะยื่นภายในสิ้นเดือนนี้อย่างแน่นอน และหากไม่มีความรับผิดชอบออกมา ก็จะอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ตามมาด้วยการยื่นต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำความเสียหายกับบ้านเมือง เราไม่เอาไว้แน่นอน ส่วนข้าราชการก็ว่ากันไปตามความผิดว่าถือว่าเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่หรือไม่ จึงเรียกร้องผู้นำประเทศให้แก้ปัญหา เราทุกข์ร้อนจริงๆกับรัฐบาลที่ไม่มีจิตสำนึก ไม่มีความรับผิดชอบ ไร้ภูมิปัญญา ไม่งั้นเราจะตายกันหมด
เพื่อไทย ย้ำรัฐบาลปกปิดข้อมูลโรคระบาดหมู จี้ รมว.เกษตรฯต้องรับผิดชอบขอโทษประชาชน
นทางด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวถึงประเด็นราคาหมูแพง ว่า มีการเบิกจ่ายเงินไปแก้ปัญหาโรคอหิวาต์ในหมูจริง โดยมีหลักฐานการเบิกจ่ายไปยังกระทรวงการคลัง แต่รัฐบาลกลับออกมาปฏิเสธว่าไม่มีโรคระบาดในหมู จึงเป็นเรื่องน่าละอาย ซึ่งถึงเวลาที่กรมปศุสัตว์ต้องปฏิรูปทั้งหมด ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับการเลี้ยงหมูต้องปรับโครงสร้างทั้งหมด เพราะการปกปิดทำให้เชื้อระบาดไปทั่ว เกษตรกรซื้อวัคซีนไปฉีด แต่สุดท้ายหมูก็ตายหมดคอก หมดเนื้อหมดตัว หลายคนจะฆ่าตัวตายเพราะความเดือดร้อน ซึ่งฝ่ายการเมืองต้องใส่ใจมากกว่านี้ ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯต้องยอมรับความผิดพลาดและขอโทษประชาชน โกหกไปถึงต่างประเทศ ใครจะเชื่อถือ ถ้าเป็นตน ตนลาออก ตนละอาย
ด้านน.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลผิดพลาดตรงที่การปกปิดข้อมูลว่าไม่มีโรคระบาดในหมู และไม่รับฟังข้อเสนอการแก้ปัญหา จึงตั้งข้อสงสัยว่า ความผิดพลาดของรัฐบาลนั้น เป็นความผิดพลาดจริงหรือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ แต่ความผิดพลาดดังกล่าว กลับเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน.
การเมืองในรอบสัปดาห์ยังมีการเลือกตั้งซ่อมสงขลา ในวันที่ 16 ม.ค. 2565 และเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ในวันที่ 30 ม.ค. 2565 แต่เดิมเป็นพื้นที่ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ แต่ถูกตัดสินให้หมดสิทธิ์ทางการเมือง 20 ปี
การเมืองไทยจะไปในทิศทางใดโปรดติดตามกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews