“วิโรจน์-กรุณพล” ห้าวให้สุดหยุดที่โค่นลุง

คึกคักอย่างยิ่งทั้งสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ จตุจักร และสังเวียนพ่อเมืองกทม. โดยฝ่ายการเมืองทั้ง 2 ขั้วต่างส่งเด็กในคาถาเข้าชิงชัยกันพร้อมเพรียง

 

แต่ที่น่าสนใจคือฝ่ายการเมืองน้องใหม่อย่าง พรรคก้าวไกล ที่เคยพีคสุดๆไปแล้วในช่วงศึกเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 แล้วก็ค่อยๆแผ่ว ลดดีกรีความร้อนแรงลงมา เพราะหลังๆในสนามเลือกตั้งซ่อม และสนามท้องถิ่นไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

แต่พรรคก้าวไกลยังคงเดินหน้าปักธงความคิดในทุกเวที เหมือนสังเวียนเมืองหลวง ที่ถือเป็นสนามปราบเซียน เพราะคนกรุงเทพมีความหลากหลาย ซึ่งกระแสสำคัญกว่ากระสุน อารมณ์ความรู้สึกเหนือเหตุและผล ซึ่งก้าวไกลเคาะบรรทัดสุดท้ายเป็น”วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ผู้วาจาคมคายเป็นอาวุธ ลีลาการพูดท่าทีดุดัน แข็งกร้าว ถูกใจสายฮารด์คอร์ยิ่งนัก

ส่วนสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ จตุจักร ได้ เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ วัย 45 ปี ลูกชายนายตำรวจใหญ่ยศพลตำรวจตรี ขณะคุณแม่ เป็นอดีตนางสาวไทย โดยเพชร จบปริญญาตรีที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นอดีตดาราที่มีคนนิยมจำนวนหนึ่ง ช่วงหลังเคลื่อนไหวผ่านช่องทางโซเชียล โจมตีการทำงาน และประกาศจุดยืนสนับสนุนผู้ชุมนุมประท้วงไล่รัฐบาลประยุทธ์มาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลได้เลือก นักรบเข้าสู้ศึก 2สนามนี้ ล้วนแต่เป็นสายฮาร์ดคอร์ ไม่ใช่สไตล์นิ่มนวล ประนีประนอม หรือเชิงวิชาการเหมือนอย่างท่านหัวหน้าพรรค หนุ่มทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่หลังๆก็เริ่มออกลูกดุดันมากขึ้น ซึ่งทั้ง”วิโรจน์ ” และ เพชร-กรุณพล อยู่ในวัย 40กลางๆ ที่แม้จะไม่ใช่ระดับซูเปอร์สตาร์ แต่ก็สร้างชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับหนึ่งโดยเฉพาะ “วิโรจน์ ” นั้นลีลาการอภิปราย ที่ครบเครื่องทั้งแม่นข้อมูล ไล่ระดับน้ำเสียง ดึงอารมณ์ เร้าอารมณ์คนฟัง ไม่ต่างจากนักโต้วาทีมืออาชีพ ซึ่งแน่นอนว่าบุคลิก”วิโรจน์ “นั้นพร้อมชนกับทุกคนในฝ่ายรัฐบาล ดังนั้นในช่วงเปิดตัวผู้สมัครลงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยทีเซอร์ ตอกย้ำว่า “หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม” และ “ถึงเวลาเลือกผู้ว่าที่พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพ”

 

ซึ่ง “วิโรจน์ “ระบุว่าพร้อมชนทุกปัญหา 3 เรื่อง คือ

1.เรื่องส่วย
2.เรื่องระบบราชการที่มีจำนวนมาก ทำงานซ้ำซ้อน
3.นายทุนที่เอาเปรียบประชาชนคนกทม.และ”เราสามารถส่งผ่านอนาคตที่ดี ไปให้ลูกหลาน จะขอใช้ดีเอ็นเอ ของพรรคก้าวไกล พร้อมชนทุกปัญหาเพื่อคนกทม.

จะแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา เอาผลประโยชน์คนกทม. เป็นตัวตั้ง จะปักธงอนาคตที่แตกต่างหลากหลายให้เดินไปพร้อมกัน”

 

ส่วน เพชร-กรุณพล นั้นแม้จะไม่ดุดันมากนัก ไม่มีภาพจำดาราสายบู๊ แต่เมื่อลงสนามเลือกตั้งสส. เขาก็ปรับโหมดเพิ่มความดุดัน เหมือนครั้งหนึ่งบนเวทีหาเสียง เขาระบุว่า “ดาราคนนี้พร้อมเข้าไปด่า พล.อ. ประยุทธ์ในสภา ถึงเวลาแล้วที่เราจะไม่ประนีประนอม ไม่พูดจาดีๆ กับคนที่ไม่มีเหตุผล ถึงเวลาแล้วกับการพุ่งชนต้นตอปัญหาอย่างดุดัน เราไม่ก้าวร้าว เราจะก้มโค้งให้ประชาชนแต่จะยืนตรงต่อหน้าเผด็จการ ”

เป็นที่สังเกตว่า พรรคก้าวไกลใช้กลยุทธ์ พร้อมชน-ลุย ร่างกายอยากปะทะ เพื่อให้สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ประนีประนอม พร้อมบวกหากคิดว่าตนเองถูกต้อง บางครั้งกลายเป็นคนแรง ก้าวร้าว แต่ก็เรียกเสียงเชียร์ได้ไม่น้อย และถึงแม้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง แต่ก็ได้ขยายเจตจำนงต่างๆให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะทั้ง”วิโรจน์-กรุณพล”นั้นมีหมุดหมายสูงสุดเดียวกันคือโค่นอำนาจรัฐบาลนี้ลงให้ได้ !

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews