Home
|
ข่าว

ครม.อนุมัติงบกลางจ้างเหมาพนักงานกรมอุทยานแห่งชาติ

Featured Image
ครม.อนุมัติงบกลาง 251 ล้านจ้างเหมาพนักงานปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 3,999 อัตรา

 

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการจ้างเหมาพนักงานปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงินงบประมาณ 251.94 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ 2565 สำหรับจ้างเหมาพนักงานจำนวน 3,999 อัตรา ในอัตราจ้าง 9,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการจ้าง 7 เดือน ระหว่าง มี.ค.-ก.ย. 2565   เพื่อปฏิบัติงานตามภารกิจสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่าโครงการดังกล่าวเป็นการจ้างงานราษฎรในพื้นที่มาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานในพื้นที่ในการอนุรักษ์ คุ้มครอง และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เช่น งานด้านป้องกันรักษาป่า การลาดตระเวนตรวจปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า งานควบคุมไฟป่าและหมอกควัน งานปราบปรามการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าระหว่างประเทศ งานอนุรักษ์ทรัพยากรป่าต้นน้ำ งานสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลป่าไม้ งานบริการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมทั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในส่วนที่ถูกปรับลดงบประมาณ เนื่องมาจากการได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19

 

 

 

 

 

ครม.อนุมัติกรอบเงินงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงินรวม 209,044 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี ได้ อนุมัติกรอบงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 วงเงินรวม 209,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2565 จำนวน 10,152 ล้านบาท ประกอบด้วย งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 207,093 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากวงเงินที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 8,202 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.12 โดยเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเงินเฟ้อด้านต้นทุนบริการ ปริมาณบริการที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มปกติ การเพิ่มการเข้าถึงบริการรูปแบบใหม่ และเพื่อตอบสนองนโยบายยกระดับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และแนวทางปฏิรูปห้องฉุกเฉิน และงบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 665  ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51.82

สำหรับโครงสร้างงบประมาณของกองทุนฯในปีงบประมาณ 2566 ประกอบด้วยรายการบริการหลัก 10 รายการ โดยมีการปรับเปลี่ยนที่สำคัญ คือ การยุบรวมรายการค่าบริการสาธารณสุขสำหรับบริการกรณีโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นรายการที่เพิ่มขึ้นใหม่ในปีงบประมาณ 2565  เข้ากับ 1.รายการค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว 2.รายการค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ได้แก่ ค่าบริการตรวจคัดกรองการติดเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และวิธี Antigen Test Kit (ATK) และค่าบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19  และ 3.เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการ กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับบริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการผู้ป่วยโรคโควิด-19 เนื่องจากคาดการณ์ว่าโรคโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น

ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงรายการย่อยที่ใช้คำนวณอัตราค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว โดยได้ย้ายรายการย่อยที่ 7บริการจ่ายตามเกณฑ์คุณภาพผลงานบริการที่เพิ่มขึ้น ไปรวมในงบบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง(โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง) คงเหลือรายการย่อย 6 รายการ ได้แก่ บริการผู้ป่วยนอกทั่วไป, บริการผู้ป่วยในทั่วไป, บริการกรณีเฉพาะ,บริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์,บริการแพทย์แผนไทย และค่าบริการทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายในลักษณะงบลงทุน

นอกจากนี้ข้อเสนองบกองทุนฯที่ขอรับจัดสรรในปีงบประมาณ 2566 ยังได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ ปรับความชัดเจนของขอบเขตและการเข้าถึงบริการที่ยังเข้าถึงบริการได้น้อยรวม 26 รายการ รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยกระดับหลักประกันสุขภาพและการดำเนินการตามแนวทางการปฏิรูปห้องฉุกเฉิน เช่น การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นการขยายการให้บริการต่อเนื่องจากปี 2565 โดยให้ผู้มีสิทธิสามารถเข้ารับบริการกับแพทย์ประจำครอบครัวที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ โดยในปี 2566 จะมีการขยายการดำเนินงานไปทั่วประเทศ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube