เด็กอายุ 5-11 ปี 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง รับวัคซีนโควิด-19 ได้แล้วที่รพ.ที่มีประวัติการรักษา เมื่อครบค่อยทยอยฉีดให้เด็กปกติ
วันนี้ (3 ก.พ. 65) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร โดยมี นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาและหารือแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่เด็กอายุ 5-11 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว และโรงพยาบาลได้เริ่มดำเนินการให้บริการฉีดวัคซีนแก่เด็กอายุ 5-11 ปีไปบ้างแล้ว
โดยเบื้องต้นในช่วงแรกเป็นการฉีดวัคซีนแก่เด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มก่อน ได้แก่
1. โรคอ้วน ที่มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น
2. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง
3. โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
4. โรคไตวายเรื้อรัง
5. โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
6. โรคเบาหวาน และ
7. กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า
จากการสำรวจยอดกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาล 67 แห่ง แจ้งยอดรวมจำนวน 54,833 คน โดยเด็กที่มีภาวะเสี่ยง 7 กลุ่มโรคดังกล่าวสามารถขอรับบริการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลที่เด็กมีประวัติการรักษาอยู่
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนแก่เด็ก 5-11 ปี เป็นไปอย่างมีระบบตามที่ได้รับการจัดสรร จึงกำหนดฉีดวัคซีนแก่เด็ก 7 กลุ่มโรคเรื้อรังก่อน และเมื่อดำเนินการฉีดวัคซีนให้เด็ก 5-11 ปี ทั้ง 7 กลุ่มโรคเรื้อรังครบแล้วจะเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้แก่เด็กปกติอายุ 5-11 ปีที่อยู่ในระบบสถานศึกษาไล่ตามลำดับเริ่มจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อน ครบแล้วจึงฉีดวัคซีนให้เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนในระบบสถานศึกษาจนครบ จากนั้นจึงเป็นการฉีดวัคซีนให้เด็กในระบบ Homeschool ต่อ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews