นายกฯยึดกฏหมาย อยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น

นายกฯยึดกฏหมาย อยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ตอบลุยต่อสมัยหน้า บอกยังจำได้ถามหลายครั้งแล้ว บ่นสื่อกลัวแดด

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของกฎหมาย ตนเองก็จะอยู่เท่าที่กฎหมายให้อยู่ อยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ก็แค่นั้นกฎหมายมีกำหนดไว้อยู่แล้ว ตนเองไม่สามารถพิจารณาเองได้อยู่แล้ว

 

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีตั้งใจที่จะลุยต่อในสมัยหน้า เป็นนายกรัฐมนตรี 3 สมัย เพื่อทำงานทางการเมืองต่อหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์วันหน้าอย่าเพิ่งถามดักหน้า วันนี้ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น ก็อยู่ไปตามหน้าที่ ที่มีอยู่ไปก่อน วันหน้าก็คือเรื่องของวันหน้าอยากถามให้นายกฯ ต้องมาตอบ แล้วเอาคำพูดวันนี้แบบนี้ ทำให้วันต่อไปอื่นพูดแบบอื่นไม่ได้อีกแล้ว “ผมไม่ตอบคุณอีกแล้ว คำถามที่ไม่มีวันจบเหมือนเพลงที่แต่งแล้วไม่มีวันจบ ถามวนอยู่นั่น พูดกลับไปกลับมา แต่นายกฯยังจำได้อยู่ สมองยังดี จึงจำได้ว่าถามมา 50 ครั้งแล้ว ก็ตอบเหมือนเดิม”

 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้บอกว่าแดดร้อนแล้ว นายกฯจึงหันมาพูดว่า กลัวแดดหรอ พร้อมยังชี้ไปที่หน้าอก ว่า ร้อนใจมากกว่า ประชาชนเขาร้อนใจเขาเดือดร้อน นายกฯก็ร้อนใจแบบเขา ลาก่อนเดินเข้าตึกได้หันมาพูดอีกว่า” กลัวอะไรกับแดด”

 

ทั้งยังกล่าวอีกว่า วันนี้เรื่องใดก็ตามที่ไม่สมควรความขัดแย้งทำแตกแยกสามัคคีขอให้ลดๆลงมาหน่อย เพื่อให้รัฐบาลและนายกฯ มีสมาธิทำงาน ส่วนที่บางคนถามว่ามีหลายอย่างที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้างนั้น หลายอาจคนลืมไปในเรื่องปฏิรูปเชิงโครงสร้างกลไกวิธีการทำงานและหลักคิดใหม่ๆ เป็นสิ่งที่นายกฯ นำมาขับเคลื่อน อย่างไรก็ตามเราคือคนไทย ไม่ว่าอยู่บทบาทไหนก็ตามทุกคนต้องมุ่งให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งวันนี้การเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อะไรช่วยได้เป็นความเข้าใจตรงกันหรือเตือนกันก็จะแก้ได้หมด

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันอะไรมีปัญหาให้แจ้งมามีหลายช่องทางให้ร้องเรียน นายกฯหาวิธีการสั่งการกำกับดูแลทุกเรื่องทั้งด้านเศรษฐกิจ
ความมั่นคง หรือปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน วันนี้ต้องดูเรื่องงบประมาณอะไรต่างๆ จึงอย่าทำลายโอกาส ด้อยค่าการทำงานที่ดีๆ แต่ตนว่าใครไม่ได้อยู่แล้ว
ห้ามความคิดใครไม่ได้และยินดีจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

 

ส่วนก่อนหมดวาระมีอะไรที่นายกรัฐมนตรี?ต้องเร่งแก้ให้เสร็จหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คำว่าเร่งและเสร็จ การจะเสร็จต้องมีการวางแผนดำเนินการเป็นขั้นตอนอะไรเป็นความเร่งด่วนกลุ่มไหนมาก่อนมาหลัง ซึ่งคนเดอดร้อนที่สุดต้องได้รับการดูแลมากที่สุด วันนี้มีทั้งคนล้มแล้ว คนกำลังจะล้มทำอย่างไรต้องพยุงให้ได้ก่อนจึงมีมาตรการของรัฐออกมาเยอะแยะมากมายและใช้เงินจำนวนมาก

 

ซึ่งไม่ใช่การหาเสียงแต่เป็นการทำเพื่อประชาชนจำเป็นก็ต้องทำ ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องทำแบบนี้ทำด้วยความสุจริตใจปัญหาเกิดก็ต้องแก้ปล่อยหมักหมมไม่ได้อีกแล้วในหลายๆ เรื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่เคยหยุดแก้ และจะทยอยออกมาเรื่อยๆ หากผลีผลามมากกระทบหมด และขออย่างเดียววันนี้ความรักความสามัคคีในประชาชน ถ้าเราไม่ร่วมกันมันก็แก้อะไรไม่ได้ทั้งหมดและเราคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามเราไม่ใช่ศัตรูกันตนคิดแบบนี้

 

นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีสภาล่มบ่อยครั้ง ขณะที่จะมีกฎหมายสำคัญ เข้าไปสู่การพิจารณา ว่าในโซเชียลก็เปิดดูสิว่ามีสมาชิกเข้าไปประชุมกี่คน และบางคนก็มาไม่ได้เพราะติดกักตัว แต่บางพรรคมาแล้วไม่ลงชื่อ แบบนี้เป็นวิธีทางการเมืองหรือไม่ตนเองไม่รู้ส่วนจะกระทบกฎหมายหรือไม่ ซึ่งตนเองก็อยากให้เสร็จให้เร็ว ตามที่กำหนดไว้แล้ว แต่จะไปสั่งไม่ได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับส.ส.ดังนั้น ทุกคนก็ต้องร่วมมือในการนำปัญหาและนำกฎหมายต่างๆเข้าสู่การพิจารณา ถ้าล่มอยู่แบบนี้ก็ไปไม่ได้

 

จะบอกเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีคนเดียวมันก็ไม่ใช่แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ว่าจะฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทุกอย่างถ้าร่วมมือกันไปได้หมดทุกคนอยากเลือกตั้งไหมล่ะ ถ้าอยากเลือกตั้งกฎหมายลูกก็ต้องทำให้เสร็จ สภาก็ต้องไม่ล่ม กฎหมายของรัฐบาลที่ออกไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนถ้าทุกอย่างรวนไปทั้งหมดก็แก้อะไรไม่ได้ กลับไปที่เดิมหมดไปสู่ความวุ่นวาย

 

เมื่อถามถึงโอกาสที่นายกรัฐมนตรี ไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เมื่อถามต่อว่าจะตัดสินใจร่วมกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ถาม ไม่รู้จะตอบ อย่างไร คุณก็ไปคุยสิ”

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกเบื่อการเมืองวันนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุ อย่าถามคำว่าเบื่อหรือไม่เบื่อ เพราะตนเองเบื่อประเทศไทยไม่ได้ เบื่อกับปัญหาไม่ได้เพราะต้องแก้ไขปัญหา พร้อมย้ำว่าสู้กับปัญหาไม่ใช่สู้กับคน และตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ต่างคนต่างมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ อย่าดึงมาสู่การเมืองทั้งหมด

 

ส่วนกรณีโซเชียลมีการเผยแพร่คลิปยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองวันสถาปนาครบรอบ 88 ปีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ว่า เรื่องนี้ต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาให้ได้และเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายไปแล้ว พร้อมตั้งคำถามในสถานศึกษาสิ่งเหล่านี้ควรจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอะไรเพราะประชาชนถูกป้อนอะไรเข้าไปหรือไม่ จนทำให้เคยชินกับความรุนแรงการใช้ อาวุธ

 

แต่วันนี้การสร้างความรับรู้กับสังคมและประชาชนเปลี่ยนไป จากเดิมที่คุยกันปากต่อปาก วันนี้ให้เปิดดูโทรศัพท์มือถือการสร้างความขัดแย้งอยู่ในนั้น 80% สิ่งที่เป็นประโยชน์ตนก็รับมาแต่สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่รู้จะอ่านไปทำไม ถ้าอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจก็อย่าอ่านดีกว่า บางคนเครดิตไม่ควรจะพูดก็ไปเผยแพร่ให้เขา ซึ่งบ้านเมืองต้องการความสงบต้องการความรักความสามัคคีไม่ใช่ว่าตนจะสงวนเป็นนายกไปตลอดปีตลอดชาติ หรือตลอดชีวิตของตน ทำเท่าที่ทำได้ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าตนเองอยากจะมีอำนาจต่อ ทั้งนี้ ตนมีอำนาจเพื่ออะไรเพื่อผลประโยชน์หรือ ยืนยัน ไม่มีผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้นตั้งแต่อยู่มา7-8 ปี

 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังย้ำเรื่องปัญหาอุเทนถวายอีกว่า ในเรื่องนี้มีกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนจะมีการคาดโทษจนถึงขั้นปิดสถานศึกษาหรือไม่ต้องดูอีกครั้ง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือศิษย์เก่ารุ่นพี่ ผู้บริหารในสถานศึกษา กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ต้องลงไปแก้ไขปัญหานี้ด้วยตนเองพร้อมขอร้องบรรดาศิษย์เก่า หรืออะไรก็แล้วแต่ควรพอได้แล้ว

 

วันนี้เคยพูดว่าอาชีวะสร้างชาติ หากทำเช่นนี้จะเรียกได้อย่างไร เป็นการทำลายชาติ ทำลายสังคมทำลายความสงบเรียบร้อยมากกว่า วนกรณีข้อห่วงใยการบิดเบือนหลักสูตรประวัติศาสตร์ เรื่องสถาบัน ของสาธิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล้ว

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews