“พิจารณ์” ยันวิปค้านคุยกันแล้ว มีแนวทางชัด ป้องกันความเข้าใจผิดเพื่อไทย-ก้าวไกล ย้ำจะต้องแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาสภาล่ม ก่อให้ดราม่าระหว่างพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากการประสานกันหน้างานระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในที่ประชุมสภาฯ ที่มีความขลุกขลัก ไม่เข้าใจกัน โดยวิปฝ่ายค้านมีมติที่จะไม่เป็นองค์ประชุม
ดังนั้น ในการพิจารณารายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว เรื่องคลองไทย พรรคก้าวไกลจึงได้แจ้งสมาชิกว่า จะไม่แสดงตนในการโหวตรายงานฉบับนี้ แต่พรรคเพื่อไทยมีการแสดงตน จึงเป็นความสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยในวาระถัดไป คือรายงานศึกษาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ส.ส.เพื่อไทยอภิปรายในลักษณะไม่เห็นด้วย ทำให้ต้องมีการลงมติ
ทั้งนี้ รายงานฉบับถัดไปที่จะเข้าสู่การพิจารณาคือ รายงานบำนาญแห่งชาติ ซึ่งเป็นเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนและหาเสียงด้วยนโยบายนี้มาโดยตลอด จึงจำเป็นต้องให้สภาไปต่อได้ และแสดงตนในการพิจารณารายงานศึกษาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง
ส่วนวิปฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยกันก่อนจะมีการแสดงตนหรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า การพูดกันหน้างานบางที ก็ไม่เป็นผล เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสภา เกิดจากการให้ความเห็นที่ใส่กันไปมาระหว่างฝั่งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยท้ายที่สุด ส.ส. เพื่อไทยก็ได้มีการลุกขึ้นพูดถึงจุดยืนในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อพูดเช่นนั้น พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องลุกขึ้นแสดงจุดยืนว่า อาจไม่ใช่ความเห็นของพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด เพราะพรรคก้าวไกลเห็นต่างออกไป
ทั้งนี้ เมื่อมีข้อสังเกตว่า แทนที่จะให้เป็นดราม่าในโซเชียล แต่ผู้สนับสนุนพรรคก็ทะเลาะกันเอง เหตุใดผู้ใหญ่ จึงไม่คุยกันให้มันจบ นายพิจารณ์ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองคนละพรรค จึงมีแนวคิดแนวทางที่แตกต่างกัน แต่จะต้องแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง เพื่อให้เสถียรภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้มแข็งที่สุด ในภาวะที่เป็นวิกฤตศรัทธาที่เกิดกับฝั่งรัฐบาล เป็นวิกฤตการประชุมสภาที่รัฐบาลไม่สามารถประคองต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือฝ่ายค้านจะต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกันให้มากกว่านี้ เพื่อให้มีพลังมากกว่านี้ที่จะโค่นล้มรัฐบาลได้
อย่างไรก็ตาม จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันที่ต้องแสวงหาแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการลักษณะนี้ขึ้นอีก ซึ่งคงจะต้องไล่กันไปตามวาระ และลงรายละเอียดให้มากขึ้นว่า วาระไหนที่พรรคใดมีจุดยืนอย่างไร ก็จะต้องหาแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ที่ผ่านมาเป็นการพูดคุยแนวปฏิบัติที่หลวมๆ ให้ไปดูกันหน้างาน ซึ่งการดูหน้างานเป็นปัญหาอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
