“ชลน่าน”เมินคนมองเพื่อไทย ขัดแย้งก้าวไกล ย้ำเห็นตรงกันร่วมกันตรวจสอบรัฐบาล
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีสภาล่ม ที่หลายฝ่ายมองว่าพรรคก้าวไกลและ พรรคเพื่อไทย ได้มีปัญหากันในการประชุมสภา ว่า ไม่ถือเป็นประเด็นปัญหา ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองก็มีวิธีในการทำงานต่างกัน เมื่อฝ่ายค้านมีความเห็นว่า จะต้องร่วมกันตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาลอย่างเข้มข้น
โดยเฉพาะการเมืองที่อยู่ในภาวะวิกฤต และไม่ปกติ ที่เห็นได้ชัดว่า พรรคร่วมรัฐบาล มีความแตกแยก ซึ่งเป็นสัญญาณส่งให้เห็นว่าเสียงข้างมากในสภา ไม่ใช่เสียงข้างมากอีกต่อไป ถือเป็นหลักที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภาที่ปกครองโดยเสียงข้างมาก เคารพสิทธิ์ข้างน้อย จะปล่อยให้เสียงข้างน้อยมาปกครองประเทศไม่ได้จึงเป็นมติของฝ่ายค้านว่าจะขอตรวจสอบองค์ประชุม
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ฝ่ายค้าน มาทำงานและลงชื่อในการประชุมทุกคน ซึ่งหากรัฐบาลไม่พร้อมที่จะทำงานฝ่ายค้าน ก็ไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายรัฐบาล ที่มีเสียงข้างน้อยได้ข้อปฏิบัติดังกล่าว ก็มีข้อยกเว้น หากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ ก็จะมีมติโดยเฉพาะเรื่องไป
ขณะเดียวกัน ตามแนวทางการปฏิบัติขั้นต้น ตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ขอรับผิด ที่อาจจะทำให้เกิดความสับสนเนื่องจากการตัดสินว่า เรื่องใดสำคัญหรือไม่ ทางวิปฝ่ายค้าน ก็อาจจะไม่ได้คุยกัน โดยจะไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกันพร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างยึดหลักใหญ่ทำงานร่วมกัน และไม่มีความขัดแย้งระหว่างกันตามระบบประชาธิปไตย ยิ่งมีความเห็นต่างยิ่งดี ซึ่งความเห็นต่าง จะต้องมีข้อสรุปชัดในการอธิบายต่อประชาชนเจ้าของประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ที่หลายฝ่ายกล่าวหาว่า ฝ่ายค้านไม่ทำงาน ยืนยันว่า นี่คือการทำงานของฝ่ายค้าน หากรัฐบาลไม่พร้อมก็ต้องชี้ให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมให้อยู่ทำงานต่อ ส่วนที่มองว่าฝ่ายค้านกดดันให้รัฐบาลยุบสภาโดยการไม่อยู่เป็นองค์ประชุมนั้น ขออย่านำมาเป็นประเด็น ซึ่งไม่ว่าจะทำอย่างไรรัฐบาลก็ไม่ยอมยุบสภา
โดยขณะนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าที่จะเสนอกฎหมายที่สำคัญเข้าสภา เพราะหากไม่ผ่านมติจากสภานายกรัฐมนตรีจะต้องยุบสภา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
