เริ่มแล้ววันแรก ศึกซักฟอกรัฐบาล อภิปรายโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญม.152 ที่เป็นไปตามคาดกับ “สัญญาณ”หมายมุ่ง โฟกัสเป้าตำบลกระสุนตกไปที่ “นายกฯลุงตู่”จากการ “เปิดหัว”ญัตติ
เริ่มแล้ววันแรก ศึกซักฟอกรัฐบาล อภิปรายโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญม.152 ที่เป็นไปตามคาดกับ “สัญญาณ”หมายมุ่ง โฟกัสเป้าตำบลกระสุนตกไปที่ “นายกฯลุงตู่”จากการ “เปิดหัว”ญัตติ ร่ายยาวสารพัดปัญหาที่ส่งผลกระทบชีวิตผู้คนทั้งโรคระบาดโควิด ยันปากท้องความเป็นอยู่ อหิวาต์หมูแพง สินค้าแพง แบบ “แพงจนพังทั้งแผ่นดิน” กับ “ท่อนฮุก”ทิ้งท้ายตอนจบ ของ “หมอชลน่าน”ผู้นำฝ่ายค้าน ที่กล่าวหาว่าปัญหาทั้งหมดไม่ได้โทษที่รัฐมนตรี แต่ โทษที่ “นายกฯลุงตู่”ที่เป็นต้นเหตุ โดยเรียกร้องให้หยุดทรมานประชาชน ให้ประกาศลาออก หรือ ยุบสภาเพื่อไม่ให้ประเทศพัง แต่ที่ แทงใจดำให้ องค์ “พระรามตู่”ลง รับไม่ได้ คือนอกจากการวิจารณ์เรื่องความไร้ประสิทธิภาพไร้วิสัยทัศน์ ยัง การกล่าวหาว่า “การบริหารราชการแผ่นดินส่อในทางทุจริต” หลายเรื่องโดยอ้างถึง รายงานของวุฒิสภา และหน่วยงานภายนอก ว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริตสูงมาก ส่งผลให้การทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศสูงขึ้น
โดย “นายกฯลุงตู่”ที่ลุกขึ้นแจงหลังการเสนอญัตติ จู่จู่ ระหว่างการสปีคตอบโต้ข้อกล่าวหานายกฯไม่มีความสามารถ มีการยกเรื่องรามเกียรติ์มาเปรียบเทียบ ด้วยเหตุที่เคยคุยกับ “หมอชลน่าน”ที่บอกนายกฯเข้ามาสภาฯควรวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ โดย บอกว่า “ตนคงเล่นบท “พระราม-พระลักษณ์” ส่วนอีกฝ่าย ต้องเล่นบท “ทศกัณฐ์” คิดว่าประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์ แต่สุดท้ายก็รู้อยู่แล้ว ทศกัณฐ์ ก็ตาย” และว่า อย่ามาพูด ว่าการบริหารส่อไปทางทุจริต กับตน หากไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความ ยืนยันเข้ามา จากวันนั้นถึงวันต่อๆไป ถ้าตนยังอยู่ จะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทั้งนโยบาย เจตนารมณ์ ให้ย้อนกลับไปดูได้
เรียกว่า “พระรามตู่”มาเต็มในบท “ผู้ร้ายตายตอนจบ”แบบซัดไปที่ฝ่ายตรงข้ามคือ“ทศกัณฐ์”โดยชู “จุดแข็ง”ของ“พระรามตู่”ที่นอกจากด้านความมั่นคงประสา“เลือกสงบจบที่ลุง”ที่เคยขายได้ ยังมั่นใจว่าตัวเองไม่มีปัญหาเรื่องทุจริตแน่นอนแต่นั่นก็เพียงเป็น “ออเดิร์ฟ”เรียกน้ำย่อยวันแรกสำหรับ “ศึกฟอกลุง”ที่มีทิศทางเป็นการ“ชิมลาง”ไปสู่ “ศึกใหญ่”เดือนพฤษภาคม ที่รอบนี้ไม่ได้มีแต่“พระราม”หากแต่ยังมี “สีดาหนู”อย่าง “เสี่ยหนู”ที่ขอรับบท “คนกลาง”ชูนิ้ว“เลิฟทุกคน”ไม่เป็นศัตรูกับใคร พร้อมเป็น “หนู260”ช่วย “พระรามตู่” และไม่ตอบโต้“พี่โทนี่” “ทักษิณ”ซึ่งเคยมีบุญคุณและยังเคารพตลอด ที่วิเคราะห์ เตือน พระราม ระวังจะโดนHijack เก้าอี้นายกฯ กลางสภาฯ และบอกว่า “เสี่ยหนู” มีโอกาสเป็นนายกฯ คนต่อไป ที่ “เสี่ยหนู”ตอบด้วยท่าเกาหน้าผาก ปาดเหงื่อและชูสัญลักษณ์รักทุกคน
เช่นเดียวกับ “พี่ใหญ่ป้อม”ที่รอบนี้นัดประชุมส.ส.และรัฐมนตรีของพรรค ก่อนจะเริ่มประชุมสภาฯ ที่มีรายงานว่า มีการขอให้ประชุมสภาให้หนาแน่นเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายกฯและในช่วงที่รัฐมนตรีชี้แจงก็ขอให้ทุกคนนั่งอยู่ในห้องประชุมเพื่อเป็นกำลังใจ โดยให้หัวหน้าภาค 10 ภาคสลับกันนั่งในที่ประชุมแบบแบ่งกะกันเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่ก่อนหน้ามักเกิดปัญหาองค์ประชุม ที่ฝ่ายค้านนำมาเป็นเกมทำลายเครดิตรัฐบาล ที่สะท้อนถึงปัญหาเสถียรภาพ
ที่ต้องไม่ลืมว่า สภาพเสียงในรัฐบาลหลังจาก “ผู้กองนัส”ที่เคยเป็นประกาศเป็น“กล่องดวงใจ”หรือเส้นเลือดใหญ่ “ศูนย์อำนาจ3ป.”ออกจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ไปตั้ง “กองกำลังอิสระ18ส.ส.”โดยมี3คนในกลุ่มไปอยู่กับ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ได้ส่งผลต่อเสียงของฝ่ายรัฐบาลให้อยู่ในสภาพ “ปริ่มน้ำ”จนเป็นที่มาข่าว“หนูช่วยหน่อย”และข่าว “โพยลับ260ส.ส.”ที่มีความหมายลึกซึ้งไปถึงอาการ“ราศีจับ”ของ “เสี่ยหนู”หลังก่อนหน้าเพิ่งมีภาพ “7รัฐมนตรีบอยคอต”ไม่ประชุมครม.กับ “นายกฯลุงตู่”กรณีรถไฟฟ้าสีเขียวก่อนจะมีภาพการจับมือกันที่สภาระหว่าง“สีดาหนู”กับคน “ผู้กองนัส”ในสภาฯแบบที่มีการเปิดตอนหลังว่า“เขาเป็นเพื่อนกัน” ที่ปรากฏการณ์ทางการเมืองทั้งทางเปิดและปิดของ “ตัวละครการเมือง”ห้วงนี้ถูกมองว่ามีที่มาที่ไป จน “พี่โทนี่”เอามาทิ้งทุ่นทั้งปม “วัคซีนส.ส.”และ แผนHijack เก้าอี้นายกฯกลางรวมถึงอาการราศีนายกฯจับ“เสี่ยหนู” ที่ทุกปรากฏการณ์ ล้วนถูกนำมาสังเคราะห์ ว่านำมาสู่อาการ “งอมพระราม”หรือ อาการทุกข์ระทมกับความลำบากสุดๆ ยามนี้จากอาการโดนรุมให้ “นับถอยหลัง”ของ “นายกฯลุงตู่”ที่เพิ่งพูดในทีวันนี้ท่อนหนึ่งว่า “ถ้าผมยังอยู่จะไม่มีการทุจริต”ในที่สุด.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
