“สุดารัตน์”เชื่อยังไม่มีปรากฏการณ์ปล้นเก้าอี้นายกฯ ไม่มีลาออก-ยุบสภาเวลานี้ เห็นชัดแจงอภิปรายยังพยายามเกาะอยู่ ชี้หลังจากนี้ต่อรองกันหนักขึ้น
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทยพร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัดขบวนแนะนำพรรคแห่เข้ารอบอำเภอพระประแดง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึง สถานการณ์การเมืองไทย เชื่อว่ายังไม่มีปรากฏการณ์ ไฮแจ็ค หรือการปล้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะยังไม่ลาออกหรือยุบสภาในห้วงเวลานี้ ซึ่งฉายภาพจากเวทีอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในการชี้แจงตอบโต้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยังคงเกาะเก้าอี้อยู่แต่หลังจากนี้การเมืองจะเป็นเรื่องของเกมผู้มีอำนาจ ที่มีการแย่งอำนาจกันเองภายในรัฐบาล หรือหมายถึงเกมต่อรองตำแหน่งต่างๆ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมือง โดยอ้างอิงกระแสข่าวว่ารัฐบาลจัดงบกลางให้ ส.ส. ที่อาจเป็นผลประโยชน์ ทำให้วิเคราะห์ได้ว่านายกรัฐมนตรีจะยังไม่คิดเปลี่ยนแปลงหรือลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหรือยุบสภาในช่วงนี้
ทั้งนี้ หากจัดตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีและผลประโยชน์ก็ลงตัวรัฐบาลก็จะสามารถผ่านเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม และไม่มีการยุบสภาหรือลาออก เว้นแต่จัดผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ลงตัวก็มีความเสี่ยง ในช่วงนั้นๆ และเชื่อว่าไม่มีการไฮแจ็คเก้าอี้นายกฯ ในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ”สุดารัตน์”ยังไม่คุย”มิ่งขวัญ” ชมเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ วางแพลนเปิดตัวทีมงานด้านเศรษฐกิจ เตือนรัฐบาลมีเสียงข้างมากก็อย่าลุแก่อำนาจ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง กระแสข่าวว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีต ส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ลาออกกลางสภา อาจจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคไทยสร้างไทย ว่ายังไม่ได้พูดคุยกับนายมิ่งขวัญ แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานประสบความสำเร็จ และเคยได้ร่วมงานกันมา
ทั้งนี้มีแพลนเปิดตัวผู้มีความรู้ด้านเศรษฐกิจเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคสืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันประชาชนไม่ได้รับการเยียวยาจากปัญหาโควิด-19โดยเฉพาะปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาล จึงฝากเตือนไปยังรัฐบาล ว่าเสียงที่มีในสภาแม้จะมีเสียงข้างมากแต่รัฐบาลลุแก่อำนาจ มุ่งแต่ผลประโยชน์ของตัวเองและพรรคพวก รัฐบาลต้องพิจารณาตัวเอง ว่าไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนนอกจากนี้ยังเสนอแนะให้รัฐบาลลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันทุกชนิดเป็นระยะเวลา 1 ปีเพื่อลดต้นทุนสินค้าต่างๆ แล้วรัฐบาลสามารถไปเก็บภาษีปลายทางจัดเก็บเป็นรายได้ และลองให้คิดว่าเงิน 200,000 ล้านบาทที่รัฐจะเก็บภาษีนำมาใช้กับประชาชน ดีกว่านำไปจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ เรือดำน้ำ หากคิดไม่เป็นก็ไม่รู้ว่าจะให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองต่อไปได้อย่างไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews