เด็กติดโควิดเข้าศูนย์พักคอยเกียกกายแนวโน้มเพิ่ม

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอน โดยเฉพาะการติดเชื้อในเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และหากมีเด็กติดเชื้อก็จะต้องถูกแยกออกจากครอบครัว ซึ่งบางครอบครัวที่ไม่สะดวกทำ HI และไม่มีคนคอยดูแล ศูนย์พักคอยสำหรับเด็กแห่งเดียวที่เปิดในกทม.ตอนนี้คือศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย เขตดุสิต ได้กลับมาเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ปกครองอีกครั้ง

นายธานินทร์ เนียมหอม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดุสิต ได้พาทีมข่าวดูขั้นตอนการรับเคสเด็กที่ติดเชื้อเข้ามาดูแลที่ศูนย์พักคอยสำหรับเด็ก ซึ่งจะรับเด็กป่วยโควิด-19 ที่มีอายุตั้งแต่ 4-14 ปี ที่ผู้ปกครองไม่สามารถดูแลได้เข้ามาอยู่ในความดูแล โดยเด็กที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่จะเป็นเคสที่ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีหรือศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร ส่งตัวเข้ามาเท่านั้นและต้องเป็นเด็กที่อยู่ในอาการระดับสีเขียวหรือเฝ้าระวัง โดยทางศูนย์จะมีขั้นตอนตั้งแต่แรกรับตรวจซักประวัติเบื้องต้นก่อนพาไปยังห้องพักที่มีการแบ่งแยกชายหญิงเพื่อความปลอดภัย ภายในห้องจะมีเตียงผ้าห่ม พัดลมเพื่อให้อากาศถ่ายเทและจะมีห้องอำนวยการสำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดุสิตที่จะผลัดเวรกันมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลด้วยการมอนิเตอร์ผ่านระบบ Intercom ตลอด 24ชม.และจะสื่อสารกับเด็กๆผ่านไมโครโฟนไปยังห้องนอนที่มีการติดตั้งลำโพงไว้ แต่ละวันจะมีการตรวจวัดไข้ บันทึกข้อมูลอาการป่วยของเด็กแต่ละคนลงในระบบเพื่อให้แพทย์จากสถาบันสุขภาพฯเด็กรับทราบและประเมินอาการ หากเด็กมีอาการผิดปกติจะสั่งจัดยาให้กับเด็กคนจนกว่าจะหายดี พร้อมยอมรับว่าปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือเรื่องการสื่อสารกับเด็ก โดยต้องให้พี่คนโตคอยดูแลน้องๆให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรให้วิตกกังวลมากนักและเด็กที่เข้ามาก็ไม่มีอาการผิดปกติจนเกิดเหตุและถูกส่งกลับบ้านทุกราย

“เราจะรับเฉพาะเด็กที่อยู่ในช่วงสีเขียว คือในช่วงของการดูแลเฝ้าระวังอาการนะครับ ซึ่งเหลืองกับแดงเรารับไม่ได้เพราะเราไม่ใช่สาธารณสุขและเราไม่ใช่โรงพยาบาลนะครับ ส่วนใหญ่ปัญหาที่นี่เนื่องจากเป็นเด็กนะครับในการดูแลก็ค่อนข้างยากนิดนึง เด็กก็จะมีพฤติกรรมของเขานะครับเรื่องการซนและไม่เชื่อฟังและเรื่องการสื่อสารที่จะต้องสื่อสารกับเขาคือต้องให้พี่คนโตคือพี่ที่มีอายุมากในการกำกับควบคุมดูแลน้องๆ ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยนะครับ ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราวิตกกังวลมาก แล้วก็ยังไม่มีเด็กที่มาอยู่ที่นี่แล้วเกิดอาการผิดปกติจนเกินเหตุส่วนใหญ่ก็จะได้กลับบ้านนะครับ ”

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดุสิต กล่าวว่า ที่ศูนย์เกียกกายแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 มีเด็กที่ถูกส่งมาจำนวน 95 ราย และวันที่ 17 ม.ค.อีก 8 ราย และเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมารองรับได้52ราย ปัจจุบันมีเด็กถูกส่งมารอดูอาการ 14 เคส ซึ่งเชื่อว่าจะมีเด็กถูกส่งตัวมาเพิ่มมากขึ้น เพราะแนวโน้มยังคงมีเด็กป่วยเพิ่มต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำหรับครอบครัวไหนหากมีผู้ป่วยเด็กที่ต้องแยกออกจากครอบครัว สามารถประสานส่งเด็กป่วยได้ที่ สายด่วน สปสช.1330 สายด่วน 1669 หรือสายด่วนโควิด (EOC) 50 เขตและยังสามารถเข้าระบบ LINE @BKKCOVID19CONNECT เพื่อช่วยคัดกรองและส่งต่อผู้ป่วยสู่ระบบการรักษาผู้ป่วยให้ได้เร็วที่สุด

;

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews