“เสี่ยหนู” จอมพลิ้วปาหี่ “ตบ-จูบ” ลุงตู่

ในสภาวะเสถียรภาพคลอนแคลนช่วงปลายสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึงเห็นหลากหลายพรรคออกแอ็คชั่น เรียกเสียงฮือฮาจากกองเชียร์กันครึกครื้น ฝ่ายค้านก็ถล่มฉีกแผลรายวัน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ฉายโชว์ ออกลูกขู่ ทำนองถ้าไม่ได้ตามประสงค์ จะโดดออกจากเรือเหล็กผุแล้ว ซึ่งร้อนถึง นายกรัฐมนตรี ออกมาปรามพรรคร่วมรัฐบาล ว่าขอให้เบาๆเรื่องการเมืองกันหน่อย

 

ต่อมา เสียงเจื้อยแจ้ว พร้อมวรรคทองจากหนุ่มใหญ่วัย 55ปี ว่า “ใครจะไปกล้าขู่หรือต่อรองนายกฯ ไม่มี พูดกันด้วยเหตุผล ตนเดินผ่านนายกฯ ยังต้องก้มแล้วก้มอีก ไม่ต้องกังวล เรามีมารยาท “..มธุรสวาจาหล่นจากเรียวปาก “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รัฐมนตรีสาธารณสุข และบิ๊กบอสค่ายภูมิใจไทย หลังลูกพรรค ครูแก้ว นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม หลุดปากภูมิใจไทยจะไม่ร่วมรัฐบาล หากกฎหมายกัญชาไม่ผ่าน

พร้อมกับท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ต่อประเด็นนี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า “เขาขู่ใคร ขู่กับผมหรือเปล่า ผมไม่ได้เข้าสภาไปยกมือเมื่อไหร่ รัฐบาลทำเต็มที่ครบขั้นตอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องสภาพิจารณากันเอง ถ้ารัฐบาลไม่สนับสนุนก็คงไม่เข้าสภา” และหลังจาก เสี่ยหนูออกมาปราบลูกพรรค กระแสปั่นป่วนก็จางลง แต่เชื่อได้ว่าพร้อมจะปะทุขึ้นได้อีกทุกเมื่อ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ค่ายภูมิใจไทย ขัดแย้งปีนเกลียวกับคนในรัฐบาล

อย่างเช่นประเด็นโครงการสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ต่อสัมปทาน 30 ปีให้กับผู้รับสัมปทานรายเดิม-BTS ที่ขนาด 7 รัฐมนตรีภูมิใจไทย บอยคอตการประชุมคณะรัฐมนตรีมาแล้ว ซึ่งเป็นการติดเบรกหัวทิ่ม โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในวาระการประชุม ครม. 6 ครั้ง ในรอบวาระรัฐบาล 3 ปี และการประชุมครม.ล่าสุด ก็ไม่มีเรื่องนี้เข้า

หรือกรณี”เสี่ยหนู” ให้ข่าวว่าได้มีการลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปรับให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาฟรีตามสิทธิสุขภาพของตนเอง เช่น ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ บัตรทอง เป็นต้น จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 65 แต่ล่าสุด 22 ก.พ. 65 ที่ประชุมครม.ให้เลื่อนประกาศใช้ดังกล่าวออกไป เพื่อให้ประชาชนได้ทำความเข้าใจมากขึ้น ดังนั้น จึงขอให้ยึดหลักเจ็บป่วยวิกฤตฉุกเฉินรักษาฟรีทุกที่ หรือยูเซ็ป เช่นเดิม

 

ซึ่งงานนี้อาจทำให้”เสี่ยหนู”ต้องกลืนเลือดอีกครั้ง แต่อาจไฟเขียวให้ลูกพรรคแอ็คชั่นต่อหรือไม่ ต้องจับตาให้ดี เพราะอย่าลืมว่าขณะนี้ขุมกำลังค่ายภูมิใจไทย อย่างเป็นทางการ 65 เสียงและมีพวกฝากเลี้ยงและงูเห่า อีก 5 เสียง รวมเบ็ดเสร็จ 70 เสียง ยังไม่นับที่จะไหลมาอีกในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งถ้าวัดกับค่ายพลังประชารัฐ 97เสียง ถือว่าห่างไกล แต่ถ้าภูมิใจไทย ผนึกกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ จะสร้างแรงต่อรองได้แน่นอน

แต่การเดินเกมการเมืองของ”เสี่ยหนู”นั้นต้องถือว่าไม่ธรรมดา มีทั้งลูกหนัก ลูกเบา ก้าวร้าว และนอบน้อมในเวลาเพียงลัดมือเดียว และไม่ยอมเปิดศึกกับฝ่ายไหนอย่างเป็นทางการ อาศัยวาจาคำหวาน เยินยอท่านผู้นำมาหลายรอบ หรืออย่างนายใหญ่ขั้วตรงข้าม ทาง”เสี่ยหนู” ยังพินอบพิเทาไม่น้อย ล่าสุดพูดถึงทักษิณว่า”ท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา มีบุญคุณกับผมมาก เคารพท่านตลอด”

ต้องติดตามบทบาท”เสี่ยหนู” และพลพรรคภูมิใจไทยต่อไปว่าจะมีทีเด็ดอะไรออกมาอีก และอนาคตจะเป็นหนูที่ช่วยราชสีห์ ต่อไป หรือจะแปลงร่างจากหนูเป็นพญางูเห่าสำแดงอิทธิฤทธิ์จนชาวนากระอักเลือดตาย หรือไม่!

 

“ใครจะไปกล้าขู่หรือต่อรองนายกฯ ไม่มี พูดกันด้วยเหตุผล ตนเดินผ่านนายกฯ ยังต้องก้มแล้วก้มอีก ไม่ต้องกังวล เรามีมารยาท ”

“เขาขู่ใคร ขู่กับผมหรือเปล่า ผมไม่ได้เข้าสภาไปยกมือเมื่อไหร่ รัฐบาลทำเต็มที่ครบขั้นตอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องสภาพิจารณากันเอง ถ้ารัฐบาลไม่สนับสนุนก็คงไม่เข้าสภา”

 

อย่าลืมว่าขณะนี้ขุมกำลังค่ายภูมิใจไทย อย่างเป็นทางการ 65 เสียงและมีพวกฝากเลี้ยงและงูเห่า อีก 5 เสียง รวมเบ็ดเสร็จ 70 เสียง ยังไม่นับที่จะไหลมาอีกในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

หรืออย่างนายใหญ่ขั้วตรงข้าม ทาง”เสี่ยหนู” ยังพินอบพิเทาไม่น้อย ล่าสุดพูดถึงทักษิณว่า“ท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา มีบุญคุณกับผมมาก เคารพท่านตลอด”

และอนาคตจะเป็นหนูที่ช่วยราชสีห์ ต่อไป หรือจะแปลงร่างจากหนูเป็นพญางูเห่าสำเดงอิทธิฤทธิ์จนชาวนากระอักเลือดตายหรือไม่!