แก้กฎหมายลูก ใครได้…ใครเสีย
แก้กฎหมายลูก ใครได้…ใครเสีย
ผ่านวาระ 1 ขั้นรับหลักการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแก้ไขกฏหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พรรคการเมือง เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ ที่มีการแก้ไขและมีผลใช้บังคับไปแล้ว ให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งหน้าเป็นแบบบัตร 2 ใบ แม้จะมีข่าวลือ ข่าวปล่อยมากมายว่ามีหลายฝ่ายอยากให้คว่ำ เพื่อกลับไปใช้ระบบเดิม แต่นั่นคงไม่มีประโยชน์เพราะหากจะกลับไปใช้แบบเดิม คงต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่อีกรอบ หรือ ต้องทำให้การแก้ไขครั้งก่อนเป็นโมฆะ
ซึ่งขณะนี้ มี 2 พรรคเล็ก พยายามยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งนั่นล้วนเป็นหมากเกมของบรรดาผู้ทรงเกียรติ ที่ต่างหมายมุ่งรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีขั้นตอน และมีกรอบเวลาเป็นตัวกำหนดเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข มีผลใช้บังคับ กฏหมายประกอบก็ต้องได้รับการแก้ไขให้สอดรับกัน ป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แล้วกติกายังไม่เรียบร้อยซึ่งอาจจะถือเป็นการเตรียมความพร้อมหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถอดใจยุบสภากลางคันก็ได้
ดังนั้นกระบวนการแก้ไขกฏหมายลูก 2 ฉบับ จึงถูกดันเข้าสู่สภา 2 ฉบับ จำนวน 10 ร่างซึ่งในส่วนของ การเลือกตั้ง ส.ส. 4 ร่าง ทั้งของ ครม.,พรรคร่วมรัฐบาล และ ของฝ่ายค้าน ต่างได้รับความเห็นชอบในวาระแรกทั้งหมด ต่างจาก ฉบับพรรคการเมือง ที่มี 6 ร่างผ่านแค่ครึ่งเดียว จากฝั่งรัฐบาลเท่านั้น ของฝ่ายค้านถูกสกัดออกไปหมด แต่วิปฝ่ายค้านก็พอใจ สามารถผลักดันกระบวนการแก้ไขให้เดินหน้าได้สำเร็จ ไม่ถูกคว่ำตั้งแต่ยกแรกตามข่าวลือ
หลังจากนี้ คงต้องติดตามกันต่อว่า ในการพิจารณา ชั้นกรรมาธิการ การต่อสู้ เพื่อรักษษจุดยืนของ ฝ่ายรัฐบาล ของฝ่ายค้าน กลุ่มพรรคเล็กหรือมุมมองของ ส.ว. ต่อแต่ละร่าง จะเป็นอย่างไร มีประเด็นที่น่าสนใจ และจะต้องต่อสู้กันอีก คือเรื่อง สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเดียว เบอร์เดียว ทั่วประเทศ พรรคใหญ่ต่างไม่มีปัญหา แต่พรรคเล็กงอแง ซึ่งบทสรุปจะเป็นแบบไหน ระหว่าง MMM คือไม่กำหนด ส.ส.พึงมี แบบที่เราเคยใช้ หรือ MMP มีการกำหนด ส.ส.พึงมี
แต่คงไม่สามารถใช้แบบ MMA แบบปี 62 ที่ทำให้มี ส.ส.ปัดเศษ ได้แล้ว เพราะเปลี่ยนมาเป็นบัตร 2 ใบ ซึ่งแน่นอนว่า พรรคใหญ่ อย่างเพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทยและ ประชาธิปัตย์ แสดงออกชัดเจน นับแบบไหนก็ได้ ไม่เสียหาย แต่กลุ่มพรรคใหม่ และกลุ่มพรรคเล็กๆ อยากให้เป็น MMP กำหนด ส.ส.พึงมีนั่นเอง ดังนั้น บัตร 2 ใบที่พรรคใหญ่ ตีปีก ตั้งแต่แก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ จะจบด้วยการนับคะแนนบัญชีรายชื่อแบบไหน หากไม่เอาระบบ ส.ส.พึงมี มาคำนวณ บรรดาพรรคเล็ก สูญพันธ์เสียแนวร่วมของรัฐบาลชุดนี้แน่นอน
แต่หากยังกำหนด ส.ส.พึงมี เพื่อไทย น่าจะเสียประโยชน์มากสุดอยู่พรรคเดียว เพราะพรรคอื่นๆ อาจไม่มี หากวัดจากผลเลือกตั้งเมื่อปี 62 เป็นตัวตั้ง ดังนั้นเรื่องระบบนับคะแนนบัญชีรายชื่อ ก็อาจมีเพียงเพื่อไทย พรรคเดียวที่เป็นเสียงข้างน้อยในชั้นกรรมาธิการ ส่วนประเด็นอื่นๆในเรื่องของพรรคการเมือง ที่ฝ่ายค้านพยายามผลักดันในร่างของตัวเอง ก็คงจบแค่นั้น ไปต่อไม่ได้อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดก็ได้แต่หวังว่า ทำกติกาใหม่กันแล้ว เมื่อเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึงคงไม่มีปัญหาเดิมๆกลับมาวนลูปให้ปวดหัวกันอีกก็เท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews