นายกฯเปิดโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่ง – โลจิสติกส์ทางน้ำ เป็นประตูการค้า รองรับลงทุนอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ผ่านระบบ Video Conference ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล หลังมีการเปลี่ยนแปลงวาระงาน จากการลงพื้นที่จังหวัดระยอง ที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยการดำเนินการ โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ( ช่วงที่ 1) เป็นอีกหนึ่งโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ 1 ใน 5 ของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพื่อจะรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติ และวัตถุเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ตลอดจนรองรับอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจร อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี
ซึ่งการดำเนินการโครงการดังกล่าวอย่างเป็นการยืนยันเจตจำนงของการดำเนินการระหว่างภาครัฐและเอกชนในการที่จะพัฒนาโครงสร้างโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ก่อให้เกิดการลงทุนในด้านต่างๆที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ด้านอื่นๆ และอุตสาหกรรมเป้าหมายมาสู่พื้นที่ EEC ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้หากโครงการดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วงจะก่อให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ทางการที่จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ทางน้ำ และเป็นประตูการค้าลงรับการลงทุนอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ทั้ง S Curve ละ New S Curve เชื่อมโยงต่างๆในภูมิภาคอาเซียนสู่เศรษฐกิจต่างๆตลอดจนมีส่วนในการพัฒนาพื้นที่และท้องถิ่นทำให้เกิดการจ้างงานสร้างเศรษฐกิจของชุมชน เพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมใช้เวทีเอเปค EEC เปิดตัวและขับเคลื่อนประเทศจากสถานการณ์โควิดไปสู่อนาคต
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ขอให้ทุกภาคส่วนได้มีการเตรียมความพร้อม ใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยผลักดันส่งเสริมผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนคนไทยในทุกด้านทำให้ EEC และประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เป็นกลไกสำคัญที่จะร่วมกันผลักดันโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยต่อไปในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews