นายกฯประชุมฝ่ายมั่นคงเกาะติดรัสเซีย-ยูเครน
ภายหลังนายกฯเปลี่ยนแผนไม่ลงพื้นที่จังหวัดระยอง ในวันนี้ และเปิดโครงการท่าเรือมาบตาพุด ผ่านระบบออนไลน์แทน ก็ได้เรียกประชุมฝ่ายมั่นคง ประชุมติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งนายดอน ปรมัตถ์วินัย เปิดเผยว่า ในคืนนี้ จะมีการประชุมร่วมกับองค์การสหประชาชาติด้วย
ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังมีการเปลี่ยนแปลงวาระงาน จากเดิมที่กำหนดจะมีการลงพื้นที่จังหวัดระยอง ในช่วงเช้า และสมุทรปราการ ในช่วงบ่าย มาเป็นเปิดงานในรูปแบบออนไลน์แทน โดยในการเปิดโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า โครงการดังกล่าว จะก่อให้เกิดประโยชน์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ทางน้ำ และเป็นประตูการค้า การลงทุนในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ในพื้นที่อีอีซี และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในอนาคต
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมฝ่ายมั่นคง ต่างประเทศ ที่มี รองนายกรัฐมนตรี ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, นายดอน ปรมัตถ์วินัย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล,นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษย์ เข้าร่วม เพื่อติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่อาจจะขยายวงกว้างบานปลายมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องราคาพลังงาน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกระทบต่อทุกมุมโลก หากสถานการณ์ยืดเยื้อ โดยรัฐบาลมีแผนอพยพคนไทยออกจากยูเครน ในวันที่ 1-2 มี.ค. 65 จำนวน 99 คน ผ่านเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ แต่ยังมีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่พร้อมที่จะกลับมา เนื่องจากมี ครอบครัวอยู่ที่นั่น
ทั้งนี้ นายดอน ย้ำถึง ท่าทีของไทย ต่อรัสเซีย และยูเครนว่า ในตอนนี้ไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งในคืนวันนี้ (28 ก.พ.65) จะมีตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมประชุมกับองค์การสหประชาชาติ เพื่อพูดในเวทีถึงการแสดงท่าทีกับนานาประเทศและอาเซียน ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพราะเราให้ความสำคัญเรื่องนี้ไปอันดับต้นๆ และหากมีความจำเป็นที่ไทยจะต้องเลือกอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ก็ต้องขอดูสถานการณ์ในวันนั้นอีกครั้ง แต่ย้ำว่า การไม่เลือกข้างดีที่สุด จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเรียกร้องในการคลี่คลายสถานการณ์ เพื่อลดความขัดแย้งให้ได้ ผ่านการพูดคุยเจรจาระหว่าง ยูเครน – รัสเซีย ที่ชายแดนเบลารุส โดยหวังว่าจะหาข้อยุติในครั้งนี้ได้
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมด่วนเพื่อรับฟังสถานการณ์ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีในแต่ละคนที่ต้องกำกับดูแลหลายกระทรวงต้องไปดูตามหน้าที่ซึ่งเวลามีสงครามก็ต้องดูทั้งในเรื่องการค้าระหว่างประเทศนั้นเป็นอย่างไร การเงิน การคว่ำบาตร การทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งต้องมีการเตรียมตัว โดยเมื่อมีสงคราม สิ่งที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับแรกคือ พลังงาน แม้กระทั่งยาทุกประเภทที่นำเข้า ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียมพร้อม อย่าให้เกิดปัญหาอะไรเพิ่มเติมแต่ในส่วนของยาและเวชภัณฑ์ประเทศไทยไม่น่าจะมีปัญหามากนัก เพราะสามารถผลิตยาเองได้ คงไม่ถึงขั้นประสบปัญหาแต่ก็ไม่ประมาทต้องเตรียมตัวไว้ด้วยเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews