กระทรวงพาณิชย์ ปลื้ม เริ่มปี 65 มูลค่าส่งออก BCG กลุ่มอาหาร Future Food เจรจาธุรกิจงานเดียวทะลุ 3,450 ล้านบาท
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจากนโยบายด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโดยใช้กลยุทธ์ BCG Model หรือเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจสีเขียวเศรษฐกิจหมุนเวียน Bio Circular Green Economy ในการขับเคลื่อนการส่งออกอาหารไทย โดยมีกลุ่มสินค้าอาหารแห่งอนาคต (Future Food) เป็นสินค้าเป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วย อาหารฟังก์ชัน (Functional Food) อาหารใหม่ (Novel Food) อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) และอาหารออร์แกนิก (Organic Food) กลุ่มสินค้าดังกล่าว นอกจากจะเป็นไปตามแผนงานและมีโอกาสในการขยายตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน กำลังเป็นที่ต้องการและเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก สอดรับกับนโยบาย “BCG Economy” ของรัฐบาล ทั้งผู้ผลิตและ ผู้ส่งออกจึงควรให้ความสำคัญในการศึกษาแนวโน้มตลาด และวางแผนในการทำตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น
ล่าสุดในการส่งเสริมการส่งออกเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายข้างต้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจกลุ่มสินค้าข้างต้นในรูปแบบออนไลน์ (Online Business Matching : OBM) ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก มีผู้ประกอบการไทยสินค้า BCG กลุ่มอาหารแห่งอนาคต (Future Food) เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวน กว่า 37 ราย ได้จับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ/ผู้นำเข้า จำนวน 100 บริษัท จาก 32 ประเทศ ทั่วโลก มีการจับคู่เจรจาฯ รวมทั้งสิ้น 359 คู่ โดยประเทศที่ขอจับคู่เจรจามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) อินเดีย 2) เมียนมา 3) ญี่ปุ่น 4) เวียดนาม 5) ฟิลิปปินส์ ตามลำดับ และสินค้าที่ได้รับความสนใจมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) เนื้อจากพืช 2) เส้นก๋วยจั๊บ 3) หนังปลาทอดกรอบ
ทั้งนี้ การจับคู่เจรจาส่งผลให้เกิดมูลค่าการสั่งซื้อสินค้า BCG กลุ่มอาหารแห่งอนาคต (Future Food) รวมทั้งสิ้นกว่า 3,450 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการประเมินผลการจัดกิจกรรม ผู้นำเข้าต่างประเทศให้ความสนใจสินค้า BCG กลุ่มอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ของไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศไทย มีความต้องการนำเข้าสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ เช่น วีแกน และโปรตีนจากพืช รวมถึงความต้องการสินค้าตามฤดูกาล และการใช้เป็นวัตถุดิบ ของเมนูอาหารไทย ประกอบกับสินค้า BCG กำลังเป็นกระแสนิยมทั่วโลกและมากยิ่งขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคมีความตื่นตัวด้านการรักษาสุขภาพ การสร้างภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการคำนึงถึง สวัสดิภาพสัตว์ นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพาะปลูกพืชวัตถุดิบ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ข้าวสาลี เห็ด สาหร่าย และพืชตระกูลถั่วอื่นๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมสินค้าเนื้อสัตว์จากพืชอีกด้วย
ด้านนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการส่งเสริมการขายสินค้าดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ และนำเสนอสินค้าไปยังกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และกรมมีแผนการผลักดันกลุ่มสินค้า BCG กลุ่มอาหารแห่งอนาคต (Future Food) อย่างต่อเนื่องโดยกิจกรรมครั้งต่อไปจะจัดในรูปแบบ Showcase แสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจออนไลน์ ภายในงานแสดงสินค้า THAIFEX – ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition” ระหว่างวันที่ 24- 28 พฤษภาคม 2565 ทั้งนี้คาดหวังว่าสินค้าไทยจะสามารถส่งออกไปจำหน่ายในตลาดประเทศเป้าหมาย ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกควรให้ความสำคัญในการศึกษาแนวโน้มตลาด ปรับตัวรับกับสถานการณ์โลก และลงทุนและเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าของบริษัท โดยแสวงหาผลผลิตทางการเกษตรเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอาหารแห่งอนาคต ลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ ส่วนประกอบนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วย และควรวางแผนในการทำตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น ต่อไปในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews