นายกฯเร่งขับเคลื่อนทุกกลไกช่วยลดค่าครองชีพปชช.
นายกฯ เร่งขับเคลื่อนทุกกลไกช่วยประชาชน ลดผลกระทบค่าครองชีพ กระตุ้น – ฟื้นฟูเศรษฐกิจ กำชับคลังออกแบบมาตรการช่วยเหลือเพิ่มอีกตามสถานการณ์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า มาตรการลดภาระค่าครองชีพของรัฐของปี 2565 จำนวน 3 โครงการ ที่เปิดให้ใช้จ่ายไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการช่วยลดภาระการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยความคืบหน้าล่าสุด ข้อมูล ณ วันที่ 3 มี.ค. 65 ผู้ใช้สิทธิ สะสม รวม 40.72 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 53,889.99 ล้านบาท แบ่งเป็น
1) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 26.23 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 49,420.9 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 25,104.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 24,316.2 ล้านบาท
2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.28 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 4,116.12 ล้านบาท
3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.21 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 352.97 ล้านบาท
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายในการขับเคลื่อนทุกกลไกเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยุคที่ต้องเผชิญกับผลกระทบของสถานการณ์โควิด -19 โดยรัฐบาลได้มีมาตรการลดภาระค่าครองชีพของรัฐเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน เป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งมีผู้ประกอบการบริการร้านค้า ร้านธงฟ้า OTOP รวมทั้งกิจการขนส่งสาธารณะ ร่วมโครงการมากมาย ถือเป็นโครงการที่ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ลงทะเบียนไว้ต่างได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งนี้ หลังจากที่ให้สแกนใช้จ่ายสิทธิภายในวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ไม่ใช้สิทธิตามวันที่กำหนด ถูกตัดสิทธิจำนวน 2.6 ล้านสิทธิ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทาง ในระดับนโยบายว่าจะดำเนินการกับสิทธิที่เหลืออย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 หรือจนกว่าจะใช้จ่ายเต็มวงเงิน 1,200 บาท โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานด้านเศรษฐกิจร่วมกันออกแบบมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในแต่ละช่วงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งต้องวิเคราะห์ปัจจัยหลายด้านควบคู่กัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ติดตามราคาสินค้าเกษตรเร่งช่วยเหลือ ชาวนา เกษตรกร โดยเชิญชวนให้ประชาชนบริโภค/อุดหนุนสินค้าเกษตร ผลไม้ตามฤดูกาลในช่วงนี้เป็นการเพิ่มวิตามินซีช่วงสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายป้องกันโควิด-19 ได้ และขอให้ประชาชนเข้มงวดในมาตรการ Universal Prevention ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews