Home
|
ข่าว

นายกฯยันรัฐบาลลุยแก้ไขวิกฤตพลังงาน

Featured Image
นายกฯยันรัฐบาลลุยแก้ไขวิกฤตพลังงาน ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ขณะบอร์ด กพช. เห็นชอบทบทวนแผนรองรับวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง รองรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2565 (ครั้งที่ 157)ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ในวันนี้มีวิกฤตด้านพลังงานจากสถานการณ์นอกประเทศ ที่มีผลกระทบกับไทยในหลายมิติด้วยกัน รัฐบาลจำเป็นต้องมีการปรับแผน

พัฒนาแผนต่าง ๆ รวมถึงแก้ไขปัญหาเป็นระยะตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งนี้ มีหลายเรื่องที่รัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการในการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่เฉพาะเรื่องของพลังงานและน้ำมันเท่านั้น

 

ทั้งนี้ เรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกทั้งน้ำมันดีเซล เบนซิล รวมทั้ง LPG และ NGV ทั้งหมด มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ซึ่งต้องหามาตรการที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยได้มีการดำเนินการทั้งในเรื่องของภาษี และจัดหาเงินมามาทดแทนกองทุนพลังงานที่มีน้อยลงและอยู่อย่างจำกัด โดยดำเนินการภายใต้สมมติฐาน และบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เช่น

การพิจารณาราคาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันว่าจะสามารถอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไปได้เป็นระยะเวลาเท่าใดในราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมถึงการคาดการณ์ไปถึงว่าหากราคาเกินกว่าที่กำหนดไว้จะมีแนวทางในการดำเนินการ

อย่างไรต่อไป และท้ายที่สุดหากราคาน้ำมันสูงต่อเนื่องขึ้นไปอีก ณ เวลานั้นก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะหลายประเทศก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากเทียบราคาน้ำมันและราคาก๊าซของประเทศไทยกับหลายประเทศอาเซียนแล้ว

 

ราคาน้ำมันและก๊าซในประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำถึงแม้จะไม่ได้ต่ำที่สุด เพราะมีบางประเทศที่มีแหล่งพลังงานในประเทศด้วยจึงขอให้ทุกคนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะแก้ไขได้ ประชาชนก็ต้องมีความเข้าใจและฟังเหตุผลด้วยว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือตรงไหนอย่างไร

 

ถ้านำงบประมาณมาทุ่มตรงนี้ทั้งหมด อย่างอื่นก็จะไปไม่ได้ ยืนยันว่ารัฐบาลเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะพยายามแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา โดยขอให้เน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ให้มีผู้เข้าร่วมโครงการตามเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้นทั้งกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาล การสูบน้ำเพื่อการเกษตร บ้านเรือนประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลดโลกร้อนด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กพช.ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณและการดำเนินการเกี่ยวกับราคาก๊าซธรรมชาติ ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) (Energy Pool Price)ในช่วงสถานการณ์ราคาพลังงานที่มีความผันผวน

 

พร้อมเห็นชอบให้ปรับเพิ่มวงเงินลงทุนโครงการก่อสร้างคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Receiving Terminal) แห่งที่ 2 จังหวัดระยอง [T-2] ในแผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อความมั่นคง ที่มอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการ จากเดิมวงเงิน 38,500 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 41,400 ล้านบาท เพื่อเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนเดิมจากเดือนพฤศจิกายน 2565 มาเป็นเดือนพฤษภาคม 2565 ทำให้สามารถรองรับการนำเข้า LNG ได้เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านตันต่อปีเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ

 

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ปี 2565 ซึ่งได้พิจารณาเพิ่มเติมให้มีการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนนอกเหนือจากกลุ่มสัญญาเดิม จากผู้ผลิตไฟฟ้าประเภทชีวมวลหรืออื่น ๆพร้อมเห็นชอบอัตราค่าไฟฟ้าของโครงการหลวงพระบาง เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา

 

และกพช. ยังมีมติเห็นชอบทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2563 – 2567 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 เพื่อรองรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีพ เนื่องจากความผันผวนด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube