หลังเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จนบานปลายนำไปสู่การใช้กำลังทางทหาร ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจโลก จนทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ควบคู่กับราคาทองที่ขยับขึ้นอย่างรุนแรง
เนื่องจาก ทองคำเป็นทรัพย์สินที่น่าเชื่อถือและนักลงทุนให้ความสนใจต่อเมื่อเกิดความเสี่ยงจะเทขายหุ้น และมุ่งสู่การเข้าถือครองทองคำที่เป็นทรัพย์สินที่มั่นคง ทำเอาช่วงที่ผ่านมาราคาพุ่งและผันผวนรุนแรง แต่อาจจะแต่ต่างจากบ้านเราที่ ถนนเยาวราช ที่มีประชาชนจำนวนมากไปยืนรอต่อคิวเพื่อนำทองคำแท่ง ทองรูปพรรณไปขาย เพื่อทำกำไร เนื่องจากราคาทองคำพุ่งสูงถึงบาทละ 32,000 บาท จนร้านทองในย่านถนนเยาวราชคึกคัก และต้องเตรียมเงินกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเทขายของประชาชน
ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน มีท่าทีเตรียมเจรจาทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในรอบที่ผ่านมา และลดความผันผวนลง แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะเป็นเหตุการณ์หลักที่มีผลต่อราคาทองคำ ซึ่งหากมีความตึงเครียดหรือกลับมารุนแรงราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นอีกครั้ง แต่มองว่าราคาทองคำในประเทศจะยังไม่ทะลุบาทละ 33,000 บาท
ส่วนการขายทองคำในช่วงนี้เริ่มเบาลงเนื่องจากประชาชนบอกว่าราคาทองเริ่มปรับตัวลดลง ทำให้ยอดประชาชนเดินทางมาขายทองนั้นแตกต่างจากช่วงที่ราคาทองปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปัจจัยในระยะข้างหน้าที่ต้องติดตามคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยว่าจะออกมาอย่างไร
ถือได้ว่าผันผวนรุนแรงในรอบที่ผ่านมาและจากนี้ไปคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดขณะที่ราคาทองคำในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา มีแต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มและมั่นคง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews