Home
|
ข่าว

“วิษณุ”ย้ำปกปิดไทม์ไลน์ผิดพรก.ฉุกเฉิน

Featured Image
“วิษณุ”ย้ำปกปิดไทม์ไลน์มีความผิดพรก.ฉุกเฉิน แต่จะต้องดูเจตนาอีกครั้ง ปัดหารือผู้ว่าฯ กทม. เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีดารานักร้องชาย อายุ 23 ปี ซึ่งเกี่ยวพันกับกรณีปาร์ตี้วันเกิด นายเตชิน พลอยเพชร หรือ ดีเจมะตูม ไม่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลไทม์ไลน์ จะมีความผิดข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 17 และพ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือไม่ ว่า การปกปิดข้อมูลถือว่าผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ แต่จะต้องได้ความที่ชัดเจนก่อนว่าจงใจหรือไม่ เพราะถ้าเพียงแค่ลืมก็ช่วยไม่ได้ ไม่เป็นความผิดเพราะไม่เจตนา ต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก ในไทม์ไลน์ที่เจ้าหน้าที่ผู้สอบสวนโรคระบุว่าผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูลก็สามารถระบุได้ แต่ถือเป็นการกล่าวหาให้กลัวไว้ก่อน แต่เมื่อถึงเวลาจะเอาถึงขั้นผิดฟ้องร้องกันจริงก็ต้องมีหลักฐาน เพราะการไม่ให้ข้อมูลจะต้องมีหลักฐาน แม้บางครั้งไม่ให้ข้อมูลก็จริงแต่เป็นเพราะลืม ถ้าจะไปฟ้องร้องโดยระบุว่าไม่ให้ข้อมูลนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่หากจะไปฟ้องต้องเป็นการไม่ให้ข้อมูลหรือปกปิดและต้องให้โจทก์นั้นพิสูจน์ให้ได้

ดังนั้นที่สุดแล้วต้องอยู่ที่เจตนาเป็นหลัก อย่าง เช่น บางคนไปสถานบันเทิง อาบ อบนวด แล้วติดโควิด-19 มาก็บอกไทม์ไลน์ทั้งหมด แต่ไม่กล้าบอกว่าไปที่สถานนั้นมา ซึ่งการไม่บอกนั้นเพราะอาจจะกลัวเมียรู้ ถ้าเป็นอย่างนี้สืบเจตนาได้ง่าย กรณีที่มีผู้ป่วยบางรายมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องโดนด้วย

 

“วิษณุ” ปัดหารือผู้ว่าฯกทม.เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาพบเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า ไม่ได้หารือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ผู้ว่าฯ มาอวยพร รองนายกรัฐมนตรีทุกคน แต่ตนก็ได้ถามขึ้นมาเองเรื่องการขึ้นค่าโดยสาร ซึ่งผู้ว่าฯก็ตอบ

ส่วนการเรียกร้องอยากให้ชะลอการขึ้นราคาถึง 104 บาท ในวันที่ 16 ม.ค.64 นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่กล้าตอบ เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย กทม. และเอกชน ต้องไปหารือกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะยังไม่นำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และตนรู้ดีว่าเพราะอะไร เนื่องจากยังมี 3-4 ข้อที่ติดปัญหาอยู่ แต่ยังไม่ตอบและไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร แต่ไม่ควรพูด

เมื่อถามว่าเหตุที่ยังไม่เข้า ครม. ในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นแผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ 3-4
ข้อเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้เกี่ยวข้องต้องเคลียร์ให้ได้ก่อน แต่ไม่เกี่ยวกับการซักฟอก ถ้า 3-4 ข้อนี้เคลียร์ได้เสร็จก่อนก็อาจนำเข้าครม. ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ได้

ซึ่ง 3-4 ข้อนี้เป็นข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
หรือ ป.ป.ช. รวมทั้งของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ซึ่งตนขอยืนยันอีกครั้งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะหากมีการอภิปรายแล้วแต่ 3-4 ข้อนี้ยังไม่เคลียร์ ก็ยังยากที่จะนำเข้าครม. แต่ถ้านำเข้า ครม. ช้า ก็ยุ่งเกี่ยวกับการขึ้นราคา 104 บาท และหากในช่วงนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันที่ 16 ก.พ.นี้ก็ต้องขึ้นราคาตามนั้น

ทั้งนี้ หากนำเข้า ครม. ไม่ทันและส่งผลให้ต้องขึ้นค่าโดยสาร 104 บาท รัฐบาลกลายเป็นแพะรับบาปใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลทุกชุดของทุกประเทศแปลว่าแพะ แต่บาปหรือไม่ตนไม่รู้

 

“วิษณุ”ขอรอดูเนื้อหาของฝ่ายค้านตอนอภิปราย ย้ำไม่สามารถเตรียมตัวได้ครบถ้วน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล
เรียกร้องให้มีการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบัน ว่า ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกล่าวหานายกฯและรัฐมนตรีรวม 10 คน ข้อหาแตกต่างกันไป แต่เป็นญัตติ เนื้อหาจริงๆต้องไปว่ากันที่ตอนอภิปราย คนที่เตรียมตัวไม่สามารถเตรียมได้ครบถ้วนเพราะไม่รู้เนื้อหาการอภิปรายทั้งหมด เมื่อถามว่า ญัตติมีการกล่าวอ้างถึงสถาบัน นายวิษณุ กล่าวว่าอยู่ในส่วนคำกล่าวหานายกฯ 3 ประเด็นคือ ใช้สถาบันแบ่งแยกประชาชน ใช้อ้างอิงเพื่อนำมาปกปิดการกระทำที่บกพร่องของรัฐบาล และกล่าวหาว่านำสถาบันไปหาประโยชน์ แต่ตนยังไม่รู้ว่าคืออะไร อาจจะเกี่ยวกับการตั้งข้อหามาตรา 112 เป็นเรื่องที่นายกฯต้องเตรียมตัว

ส่วนที่ผ่านมาเคยมีการตั้งญัตติเกี่ยวกับสถาบันบ้างหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เคยมีแบบเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา แต่ตรงๆเช่นนี้ไม่มี เมื่อถึงเวลาในสภาใครอภิปรายหรือผู้ที่ตอบต้องระมัดระวัง ไม่ได้แปลว่าพูดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเจอข้อบังคับการประชุมสภาจนมีการประท้วงและคัดค้าน การอภิปรายเรื่องสถาบัน คนที่อยู่ในสภาชำนาญการอยู่แล้วคงต้องระวัง โดยประธานสภาต้องควบคุมในส่วนนี้ และพูดได้แต่พูดให้เป็นเรื่องของรัฐมนตรี อย่าไปพูดให้เป็นเรื่องของสถาบัน

ส่วนจะต้องประชุมลับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่เนื้อหา แต่เมื่อถึงเวลาพูดกันจะได้รู้ถ้ามีการกล่าวหาขึ้นมาแล้วรัฐบาลจำเป็นต้องตอบเพื่อให้ชัดเจน แต่ถ้าการตอบไม่สมควรเปิดเผยต่อสาธารณะ สามารถขอให้ประชุมลับได้เฉพาะเรื่องนั้น

ซึ่งส.ส.ที่อภิปรายมีเอกสิทธิ์คุ้มครองใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า การพูดในสภา ผู้ใดจะนำไปกล่าวหาฟ้องร้องในทางใดๆ ไม่ได้ แต่ถ้ามีการถ่ายทอดสดไปสู่บุคคลภายนอก จะไม่มีเอกสิทธิ์ตรงนี้ ที่ผ่านมามีการฟ้องร้องกันหลายคดี เมื่อถามว่ามีใครมาปรึกษาหรือให้ช่วยเป็นติวเตอร์ให้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี แต่ละคนชำนาญการณ์ทั้งนั้น

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube